คลินิกเสริมความงามที่ได้รับความไว้วางใจ
Lyft Clinic เนรมิตความสวยให้เป็นจริง
ยืนหนึ่งเรื่องปรับรูปหน้า
botox การดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์
การดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์

หลังฉีดโบท็อกควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?

  1. หลังฉีดโบท็อกควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
  2. งดนอนราบ 3 ชม.
  3. หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง
  4. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู หรืออาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ
  5. หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า ควรงด 2 สัปดาห์หลังทำ

 [ข้อห้าม] หลังฉีดโบท็อก เพื่อให้โบท็อกอยู่ได้นานกว่าปกติ

หลังฉีดโบท็อก ควรปฎิบัติตัวแบบไหนที่จะทำให้ โบท็อกสลายช้าที่สุด

1. หลังฉีดโบท็อกทันทีในแต่ละบริเวณ ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง

หลังจากฉีดเสร็จทั้งหมด ควรบริหารกล้ามเนื้อทั้งหมดที่ฉีดเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด เหลือส่วนที่จะปลิวไปน้อยที่สุด แต่ช่วงหลังฉีดที่ขยับกล้ามเนื้อ ก็ไม่ควรประคบเย็นเพราะจะขัดขวางการดูดโบท็อกเข้าเซลล์ประสาท (นั่นคือเราใช้ความเย็นบล็อกรอบ ๆ ตอนฉีด แล้วขยับกล้ามเนื้อหลังฉีดเพื่อดึงโบท็อกเข้าเซลล์ครับ)

หลังฉีด เราควรรีบขยับกล้ามเนื้อแบบในรูปฝั่งซ้ายมือทันทีครับ ถ้าฉีดกรามก็ใช้วิธีเคี้ยวหมากฝรั่งหรือกัดฟันทันทีหลังฉีด

2. หลังฉีดโบท็อก ควรงดนอนราบ 3 ชม.

อาการหลังฉีดโบท็อก > หลังฉีดโบ หน้าบวมได้เป็นปกติครับ ให้ดูแลตัวเองอย่าแกะเกานวดบริเวณที่ฉีด รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่หน้าเยอะขึ้น โบท็อกจะปลิวไปเยอะขึ้น

สำหรับโบท็อกส่วนที่ 1 ที่อยู่ในเซลล์ประสาท ทำหน้าที่ยับยั้งกล้ามเนื้อ จะต้องใช้เวลา 7-14 วัน กว่าที่จะเริ่มเห็นผลการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ และความเข้มข้นของโบท็อก จะค่อย ๆ ลดลงตามเวลา ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โบท็อกย่อยสลายไวขึ้น คือ ความร้อน และการไหลเวียนของเลือด (Metabolism)

3. ในงานวิจัยพบว่าการกินแร่ธาตุ zinc 50 mg ก่อนและหลังการฉีดโบท็อก ช่วยให้โบท็อกออกฤทธ์ไวขึ้น ออกฤทธิ์ดีขึ้น

และช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น แต่ในบางเคสก็ทำให้เกิดผลข้างเคียงของโบท็อกได้มากขึ้นครับ เพราะเสริมฤทธิ์รุนแรงเกินไป ดังนั้นในการกินธาตุสังกะสีปริมาณมาก ๆ จึงแนะนำให้กินตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้นนะครับ ส่วนมากจะใช้ในเคสที่มีอาการขาดแร่ธาตุสังกะสีชัดเจน หรือเคสที่เริ่มดื้อโบท็อก (อาการคือฉีดแล้วอยู่ได้ไม่นาน) เท่านั้นครับ

แต่หากกินจากอาหารหรือกินในปริมาณปกติตามที่ Thai RDA กำหนด คือไม่เกิน 15-20 mg/วัน ก็สามารถกินเสริมได้ปกติครับ ในคนที่สังเกตตัวเองว่ามีอาการขาดธาตุสังกะสี เช่น ผมร่วงแตกปลาย, เป็นแผลเรื้อรัง, ผิวแห้งลอก, เป็นผื่นง่าย, เล็บแห้งเปราะหักง่าย, ก็แนะนำให้กินก่อนหรือ หลังฉีดโบท็อก ได้ครับ จะช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นครับ

ข้อมูลเกี่ยวกับแร่ธาตุสังกะสีในอาหาร

  • เนื้อสัตว์ อาหารทะเล 1.5-4 mg/100 g
  • หอยนางรม 75 mg/100 g
  • ตับ 4-7 mg/100 g
  • ไข่แดง 1.5 mg/100 g
  • ในพืชผักผลไม้มีปริมาณน้อยและดูดซึมได้ยาก

จากข้อมูลจะเห็นว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อยเลยครับที่น่าจะขาดแร่ธาตุสังกะสี และยิ่งอายุมากขึ้นก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการขาดธาตุสังกะสีมากขึ้นอีกครับ

การทำงานของโบท็อกที่อยู่ในเซลล์ประสาท จะต้องอาศัยแร่ธาตุ zinc (สังกะสี) เป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งในการสำรวจคนอเมริกันพบว่า 30% มีอาการขาดธาตุสังกะสี (ยังไม่มีการสำรวจในคนไทย) ซึ่งจะทำให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ช้าลง ออกฤทธิ์ได้น้อยลง และผลโบท็อกอยู่ได้สั้นลง https://www.ncbi.nlm.nih.gov/m/pubmed/22453589/

4. ควรฉีดโบท็อกต่อเนื่องในระยะที่เหมาะสม

ไม่ฉีดถี่เกินไป (อย่างต่ำควรเว้น 3เดือน) และไม่เว้นระยะห่างเกินไป(ไม่ควรเว้นเกิน 5-6 เดือน) เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติ และอาจจะต้องใช้ยูนิตของโบท็อกเยอะขึ้น


ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อก

1. ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง

โดยเฉพาะในช่วง 2 อาทิตย์แรกหลังฉีด (หากทำไม่ได้ก็ขออย่างน้อย 48 ชม.หลังฉีดครับ) เช่น เข้าซาวน่า, ออกกำลังกายหนัก ๆ , ตากแดด, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, เลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage งดนอนคว่ำ, งดก้มหัวต่ำกว่าอก

2. หลังฉีดโบท็อก ห้ามกินอะไรบ้าง
ในระยะ 14 วันหลังฉีด (ถ้าทำไม่ได้ก็ควรงดอย่างน้อย 48 ชม.)

  • หลังฉีดโบท็อก ควรเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
  • หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ
  • หลังฉีดโบท็อก ควร อาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
  • อาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
  • หลังฉีดโบท็อก ควรงดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด

ในกรณีหลังจาก 2 อาทิตย์ไปแล้ว กิจกรรมเหล่านี้จะส่งผลต่ออายุของโบท็อกได้บ้าง แต่ไม่มาก ที่มีผลมากที่สุดคือ การเข้าซาวน่า และเลเซอร์ร้อน ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องงด

3. หลังฉีดโบท็อก ออกกําลังกายหนัก ๆ ต้องงดไหม?

การงดออกกำลังกายเพื่อทำให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นอันนี้ไม่คุ้มครับ เพราะการออกกำลังกายดีต่อสุขภาพ และช่วยให้ผิวใสขึ้น แค่หลีกเลี่ยงความร้อนเท่าที่ทำได้ก็พอครับ

หลังฉีดโบท็อก ควรหลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงทุกชนิดเป็นเวลา 14 วันครับ (หากทำไม่ได้ก็ขออย่างน้อย 48 ชม. หลังฉีดครับ)


สรุป timeline ข้อปฎิบัติตัวในการฉีดโบท็อก

ก่อนฉีดโบท็อก

  • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ”โบท็อกแท้” 
  • ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน-หมอมีประสบการณ์
  • หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือคอร์สเลเซอร์ที่ต้องทำเป็นประจำ ควรถือโอกาสทำมาก่อนฉีดโบท็อก เพราะหลังฉีดจะต้องงดไป 2 อาทิตย์ จึงจะทำต่อได้
  • ควรงดยาในกลุ่มที่ลดการแข็งตัวของเลือดเช่น NSAIDs, แอสไพริน และงดสครับหน้า 2-3 วันก่อนฉีด จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเขียวช้ำ
  • หากมีข้อห้ามในการฉีดโบท็อกให้ปรึกษาแพทย์
  • หากมีอาการขาดธาตุสังกะสี ควรเริ่มกินอาหารที่มีธาตุสังกะสี หรือกินอาหารเสริม แต่ไม่ควรกินเกิน 20 mg/วัน ซึ่งจะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ไวขึ้น (ไม่จำเป็นต้องกินก่อนฉีด สามารถกินหลังฉีดก็ได้ ก็สามารถช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นเช่นกัน)

ระหว่างฉีดโบท็อก

  • หลังฉีดโบท็อก ในแต่ละบริเวณเสร็จทันที ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดแล้วทันที 1-2 ครั้ง
  • หลังจากฉีดเสร็จทั้งหมด ควรบริหารกล้ามเนื้อทั้งหมดที่ฉีด เช่น ยักคิ้ว ขมวดคิ้ว ยิ้มเยอะ ๆ เคี้ยวหมากฝรั่ง เป็นเวลา 30 นาทีหลังฉีด

หลังฉีดโบท็อก 3 ชม.

  • ไม่ควรประคบเย็นเพราะจะขัดขวางการดูดโบท็อกเข้าเซลล์ประสาท
  • ไม่ควรนอนราบ รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ

หลังฉีดโบท็อก 24 ชม.

  • สามารถทาครีมทับบริเวณเข็มได้ และแต่งหน้าทับได้ปกติ

หลังฉีดโบท็อก 48 ชม.

  • หากสามารถหลีกเลี่ยงอาหารและความร้อน ตามข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกได้ ก็จะได้รับผลโบท็อก 90 % จากปกติแล้ว

หลังฉีดโบท็อก 2-3 วัน

  • บางคนอาจมีผลข้างเคียงชนิดไม่อันตรายเช่น ปวดหัว ตาพร่า คอแห้ง ซึ่งผลข้างเคียงนี้เป็นแค่ชั่วคราวจะหายได้เองใน7-14วัน หากอาการเป็นมากสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาได้ อาการปวดหัวสามารถประคบเย็นได้
  • บางคนจะเริ่มเห็นผลจากการฉีดลดริ้วรอยบางส่วน

หลังฉีดโบท็อก 7-10 วัน

  • หลังฉีดโบ หน้าบวมได้เล็กน้อย รอยเขียวช้ำอาจจะยังมีอยู่จะค่อย ๆ จางลงเองใน 14 วัน ไม่ควรประคบร้อน

หลังฉีดโบท็อก 14 วัน

  • หากสามารถหลีกเลี่ยงอาหารและความร้อนได้ครบ 14 วัน ก็จะได้รับผลโบท็อก 100% จากปกติ
  • เห็นผลจากการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยเกือบเต็มที่แล้ว
  • เห็นผลจากการฉีดโบท็อกลดกรามคือ กัดกรามจะไม่เด้ง แต่กรามจะยังไม่ยุบลง ต้องใช้เวลา 2 เดือนจึงจะยุบเต็มที่

หลังฉีดโบท็อก 14 วัน จนถึงการฉีดโบท็อกครั้งต่อไป

  • สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ และพยายามหลีกเลี่ยงความร้อน
  • พยายามกินอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี
  • ควรฉีดโบท็อกต่อเนื่องในระยะที่เหมาะสม ไม่ฉีดถี่เกินไป(อย่างต่ำควรเว้น 3 เดือน) และไม่เว้นระยะห่างเกินไป(ไม่ควรเว้นเกิน 5-6 เดือน)
  • ให้พยายามเปลี่ยนนิสัยในการขยับกล้ามเนื้อจุดที่ฉีดโบท็อก ให้น้อยลง

ข้อห้ามการฉีดโบท็อก ที่อันตรายถึงชีวิต

เอกสารอ้างอิง
https://www.allergan.com/miscellaneous-pages/allergan-pdf-files/botox_med_guide
https://www.drugs.com/drug-interactions/onabotulinumtoxina,botox-index.html

ข้อห้ามการฉีดโบท็อก แบบที่ไม่สามารถฉีดได้ (Absolute contraindication)

  • คนที่มีปัญหาเรื่อง โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง อาจจะอันตรายถึงชีวิต
  • คนที่มีปัญหาเรื่อง กล้ามเนื้อในการกลืน
  • คนที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงต่าง ๆ เช่น
    • - amyotrophic lateral sclerosis (ALS)
    • - Lou Gehrig's disease
    • - myasthenia gravis
    • - Lambert-Eaton syndrome
  • มีอาการติดเชื้อที่ผิวหนังในจุดที่จะฉีดโบท็อก
  • มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือ มีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

ข้อห้ามการฉีดโบท็อก ที่ควรระวัง

สามารถฉีดได้แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน

  • มีประวัติเคยแพ้ส่วนผสมของโบท็อก
  • โบท็อกประกอบด้วย : Botulinum toxin type A, Human albumin, Sodium chloride
  • ในคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ยังไม่มีการศึกษาที่รับรองความปลอดภัยของการฉีดโบท็อก
  • สำหรับคนที่อายุ 12-18 ปี มีการศึกษารับรองความปลอดภัยในบางกรณีเท่านั้น (ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)

ข้อมูลอื่น ๆ ที่คนไข้ควรแจ้งแพทย์

  • เคยมีผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกครั้งก่อน ๆ
  • มีภาวะเลือดหยุดยาก เขียวช้ำง่าย
  • มีกำหนดการที่จะผ่าตัด
  • เคยผ่าตัดที่ใบหน้ามาก่อน
  • มีภาวะหนังตาตกอยู่
  • หัตถการต่าง ๆ ที่เคยทำบนใบหน้ามาก่อน เช่น โบท็อก ฟิลเลอร์ ร้อยไหม เมโส เลเซอร์ต่าง ๆ
  • อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการศึกษายืนยันว่าโบท็อกเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือไม่
  • ให้นมบุตร ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการศึกษายืนยันว่าโบท็อก สามารถผ่านไปทางน้ำนมได้หรือไม่

หลังฉีดโบท็อก ห้ามกินยาอะไร?

ควรแจ้งแพทย์ถึงยาที่คนไข้ใช้อยู่ปัจจุบัน ยาที่ได้รับพร้อมกับโบท็อกแล้วเกิดอันตรายมาก (Major side effect) ได้แก่

กลุ่มยาฆ่าเชื้อ ”แบบฉีด” บางตัว ไม่ใช่เพราะว่าเชื้อโบท็อกจะโดนทำลายแบบความรู้ผิด ๆ ที่เผยแพร่ในอินเตอเน็ตนะครับ แต่ยาฆ่าเชื้อบางตัวสามารถเสริมฤทธิ์โบท็อกแล้วเกิดอันตรายได้ ห้ามใช้ร่วมกับโบท็อก amikacin, colistin, polymyxin E, gentamicin, kanamycin, neomycin, netilmicin, plazomicin, polymyxin B, spectinomycin, streptomycin, tobramycin.

กลุ่มยาคลายกล้ามเนื้อ atracurium, cisatracuirum, doxacurium, metocurine, mivacurium, pancuronium, pipecuronium, rapacuronium, rocuronium, succinylcholine, tubocurarine, vecuronium.

ยาฆ่าเชื้อและยาคลายกล้ามเนื้อที่อยู่นอกรายการข้างต้นนี้สามารถใช้ร่วมกันกับโบท็อกได้โดยไม่อันตราย

กลุ่มยาที่ใช้ร่วมกับโบท็อกแล้วอาจเกิดผลข้างเคียงแบบปานกลาง ไม่อันตราย เช่น ตาพร่า ปากแห้ง รอยช้ำ (ถ้าอาการรุนแรงก็สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อปรับชนิดยาที่ใช้ได้ครับ) ได้แก่ กลุ่มยาแก้แพ้ แก้หวัด, กลุ่มยานอนหลับ, กลุ่มยาต้านเกร็ดเลือด

และหลังฉีดโบท็อกไป ในระยะ 4 เดือน ถ้าจะรับยาอื่น ๆ เพิ่มต้องแจ้งแพทย์ที่จะจ่ายยาด้วยว่าเพิ่งฉีดโบท็อกมาครับ


Q&A : ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อก

Q : ฉีดโบท็อก นวดหน้าได้ไหม?

A : หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือคอร์สเลเซอร์ที่ต้องทำเป็นประจำควรถือโอกาสทำมาก่อนฉีดโบท็อก เพราะหลังฉีดจะต้องงดไป 2 อาทิตย์ จึงจะทำต่อได้

Q : ทําไมฉีดโบท็อกซ์ถึงห้ามกินเหล้า?

A : ความร้อนของร่างกายหลังดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหลังฉีด 48 ชั่วโมง จึงควรงดก่อนครับ

Q : หลังฉีดโบท็อก กินคอลลาเจนได้ไหม?

A : หลังฉีดโบท็อก กินคอลลาเจนหรือวิตามินได้ตามปกติครับ และต้องระวังในการรับประทานวิตามินบางตัวเช่น Zinc (แร่ธาตุสังกะสี) หากรับประทานปริมาณมากจะช่วยเสริมฤทธิ์โบท็อกให้รุนแรงเกินไป

Q : ฉีดโบท็อก กินอาหารทะเลได้ไหม?

A : หลังฉีดโบท็อก กินอาหารทะเลได้ตามปกติครับ แต่ควรระวังเรื่องแร่ธาตุสังกะสี โดยปกติอาหารทะเลจะมีแร่ธาตุสังกะสี 1.5-4 mg/100 g

Q : ฉีดโบท็อกกินกาแฟได้ไหม?

A : ถึงแม้ว่าคาเฟอีนจะมีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว แต่การดื่มกาแฟมีความเข้มข้นของคาเฟอีนเพียงเล็กน้อย ไม่ส่งผลต่อโบท็อก ไม่มีผลทำให้เกิดการบวมมากขึ้น สามารถดื่มกาแฟได้ตามปกติครับ

Q : ฉีดโบท็อกมาแล้ว ทาครีมได้ไหม?

A : ทาครีมได้ตามปกติ แต่ควรเว้นบริเวณที่เป็นรอยเข็ม 1 คืน และหลัง 1 สัปดาห์ สามารถทำ Treatment ได้ครับ

Q : หลังฉีดโบท็อก เคี้ยวหมากฝรั่งช่วยเรื่องอะไร?

A : การเคี้ยวหมากฝรั่งหลังฉีดโบท็อก 30 นาทีแรก จะช่วยกระจายตัวยาและทำให้โบท็อกถูกดูดซึมได้ดีขึ้นครับ

Q : ทำไมหลังฉีดโบท็อกลดกราม ห้ามกินอาหารเหนียว ๆ

A : ถ้ากล้ามเนื้อถูกกระตุ้นให้ใช้งานบ่อยเช่น ยิ้มบ่อย เลิกคิ้วบ่อย (มักพบในคนที่เล่นสนุกเก้อ หรือเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ นาน ๆ โดยไม่จำเป็น) กล้ามเนื้อก็จะแข็งแรงขึ้นและทำให้โบท็อกอยู่ได้สั้นลง กล้ามเนื้อเด้งกับมาใหญ่เหมือนเดิม

ถ้ากล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้งานต่อเนื่องนาน ๆ เมื่อเวลาผ่านไปขนาดกล้ามเนื้อจะเล็กลง และกลับมาทำงานได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น


สรุป

เพื่อให้การฉีดโบท็อกได้ผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นาน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำก่อนฉีดโบท็อก ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อก ฉีดโบท็อกกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ยาแท้ และดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ดีและอยู่ได้นานขึ้นครับ


ดูรีวิวอื่น ๆ เพิ่มเติม
โดย หมออุ้ย
ปรับรูปหน้ามากกว่า10,000เคส
โปรโมชั่นดีๆจาก Lyft Clinic
โปรโมชั่น1
อัพความมั่นใจ กับการเติมรูปหน้าสวยด้วย Filler neuramis 5,900 บาท
Hifu ทั้วหน้า 200 Shots เพียง 3,900 บาท
หน้าไบร์ท แบบเร่งด้วย ในงบ 2,900 บาท ด้วย HYA สูตรเข้มข้น