ฉีดเมโสแฟต คืออะไร ? สลายไขมัน ปรับหน้าเรียวได้อย่างไร อันตรายไหม ?
เมโสแฟต (Meso Fat)
เมโสแฟต เป็นตัวยาฉีดเพื่อสลายไขมันสะสมเฉพาะจุดที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะการฉีดเมโสแฟตลดแก้ม เมโสแฟตลดเหนียง เพื่อทำให้ใบหน้าเรียวเล็กลง เข้ารูปมากขึ้น ในบทความนี้หมอได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟตมาแนะนำ เพื่อให้ป้องกันและระวังก่อนตัดสินใจฉีดเมโสแฟตครับ
สารบัญ เมโสแฟต
เมโสแฟต คือ ?
เมโสแฟต ทำงานอย่างไร ?
Meso Fat ช่วยในเรื่องใดบ้าง ?
การทำ Meso Fat ใช้กับบริเวณใดบ้าง ?
ฉีดเมโสแฟต เหมาะกับใครบ้าง ?
ฉีดเมโสแฟต อันตรายไหม ?
เมโสแฟต มีกี่ยี่ห้อ ?
เมโสแฟตของแท้ ของปลอม ดูอย่างไร ?
วิธีฉีดเมโสแฟต ด้วยตนเองทำได้ไหม ?
เมโสแฟต 1 ขวด กี่ cc ?
เมโสแฟต ต่างจากการฉีด โบท็อก (Botox) อย่างไร ?
ฉีดเมโสแฟตควบคู่กับฉีดโบท็อกซ์ได้หรือไม่ ?
การเตรียมตัวก่อน ฉีดเมโสแฟต
ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต
ข้อควรปฏิบัติ หลังฉีด Meso Fat
ฉีดเมโสแฟต เจ็บไหม ?
ฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผล ?
เมโสแฟตอยู่ได้กี่เดือน ?
เมโสแฟตควรฉีดกี่ครั้ง ?
ฉีดเมโสแฟต ฉีดได้บ่อยแค่ไหน ?
ฉีดเมโสแฟต ดีไหม ?
รีวิว เมโสแฟต
เมโสแฟต ราคา
เมโสแฟต ที่ไหนดี ?
เมโสแฟต คือ ?
เมโสแฟต (Meso Fat) คือ ทางลัดในการนำตัวยาเข้าสู่ชั้นผิว ด้วยการฉีดตัวยาที่ช่วยสลายไขมันลงในชั้นไขมัน โดยมีสารออกฤทธิ์หลัก ๆ คือ Artichoke extract (Cynara scolymus) ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism ลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ต้องการลดเซลลูไลท์
mesofat สกัดจากธรรมชาติ โดยตัวยาในกลุ่มของ Phosphatidylcholine, Deoxycholate, Dexpanthenol, L-carnitine, Amino acid หรือ Minerals ซึ่งเป็นสารสกัดจากถั่วเหลือง ไข่แดงและวิตามินอีกหลายชนิด
(L-carnitine ทำให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน Fat Burn)
เมโสแฟต ทำงานอย่างไร ?
เมื่อฉีดเมโสแฟต เข้าไปยังบริเวณที่มีการสะสมของไขมัน ก็จะไปกระตุ้นระบบการทำงานของ metabolism ซึ่งเป็นกลไลการเร่งการสลายไขมันตามธรรมชาติของร่างกาย และ L-carnitine ทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน (fat burn) จึงมีสรรพคุณย่อยสลายไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์ที่สะสมในชั้นไขมันได้อย่างตรงจุด
Meso Fat ช่วยในเรื่องใดบ้าง ?
เมโสแฟต (Meso Fat) มีคุณสมบัติช่วยสลายไขมันที่สะสมอยู่ในชั้นไขมัน โดยกลไกการออกฤทธิ์ของเมโสแฟต ทำให้ไขมันแตกตัวและกระตุ้นให้ไขมันที่สะสมอยู่ ถูกปล่อยออกมาในรูปของไขมันเหลว ซึ่งจะถูกขับออกมาตามกลไกการขับของเสียตามธรรมชาติ โดยจะปะปนมากับเหงื่อ ปัสสาวะและอุจจาระ
การฉีดเมโสแฟต จึงเป็นวิธีการสลายไขมันที่ไม่มีผลกระทบกับร่างกาย มีทั้งการฉีดเมโสแฟตหน้าเรียว เมโสแฟทลดเหนียง เมโสแฟตลดแก้ม หลังจากการฉีดเมโสแฟต สังเกตได้ว่าบริเวณที่ได้รับการฉีดจะเล็กลง ทำให้ใบหน้าดูเรียว เข้ารูปวีเชฟมากขึ้น
การทำ Meso Fat ใช้กับบริเวณใดบ้าง ?
เมโสแฟตแก้มห้อย หรือการฉีดแฟตลดแก้ม เป็นจุดที่ได้รับความนิยมที่สุดสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
เมโสแฟตเหนียง ฉีดลดไขมันที่สะสมบริเวณใต้คาง ทำให้มีคางสองชั้น เป็นจุดที่ถ้าใช้วิธีทั่วไปจะลดได้ยากครับ
เมโสแฟตหน้าท้อง ช่วยลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง แก้ปัญหาพุงย้วย ที่ทำให้ไม่มั่นใจ
เมโสแฟตต้นแขน ลดไขมันสะสมบริเวณแขน แก้ปัญหาแขนใหญ่ (ในจุดนี้ต้องให้หมอประเมินว่าแขนใหญ่จากไขมันหรือว่ากล้ามเนื้อครับ)
เมโสแฟตต้นขา สลายไขมันสะสมบริเวณต้นขา แก้ปัญหาขาใหญ่
ฉีดเมโสแฟต เหมาะกับใครบ้าง ?
การฉีดเมโสแฟต สามารถช่วยลดไขมันเฉพาะจุดตามที่หมอได้บอกไปข้อที่แล้ว และด้วยตัวหัตถการที่ไม่ได้มีความยุ่งยากมากในการทำ จึงเหมาะกับคนที่อยากสลายไขมัน แต่ไม่อยากเจ็บตัว ไม่ค่อยมีเวลา ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากดูดไขมัน และไม่ได้มีไขมันสะสมเยอะมากจนเกินไป การฉีดเมโสแฟตจึงมีความสะดวกและคุ้มค่ากว่าวิธีอื่น ๆ ครับ
การฉีดเมโสแฟตเหมาะกับ
- คนที่มีไขมันสะสม และอยากสลายไขมันเฉพาะจุด
- ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากดูดไขมัน
- ไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่อยากยุ่งยากในการดูแลตัวเองหลังทำ
- ออกกำลังกายหรือคุมอาหารแล้วไขมันบางส่วนไม่ลด
ฉีดเมโสแฟต อันตรายไหม ? เมโสแฟตที่อันตรายหมายถึงอะไร ?
การฉีดเมโสแฟต ถ้าฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถประเมินปริมาณยาและตัวยาที่ใช้ได้อย่างเหมาะสม คลินิกที่ได้มาตรฐานและเปิดอย่างถูกต้อง ก็มีความปลอดภัยครับ แต่จะมีเมโสแฟตบางอย่างที่ อย. ประกาศว่าอันตราย ได้แก่
1. สเตียรอยด์
สเตียรอยด์ เป็นตัวยาที่แพทย์ผิวหนังใช้ในการฉีดสิว ฉีดคีลอยด์ และใช้ในปริมาณที่น้อยจึงปลอดภัยครับ แต่ก็มีการเอาสเตียรอยด์มาใช้ผิดวิธี โดยการผสมสเตียรอยด์กับเมโสแฟตในปริมาณมาก ๆ เพื่อให้เห็นผลเร็วและต้นทุนต่ำ แต่เมื่อฉีดหลาย ๆ ครั้งจะทำให้หน้าบวม เสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อครับ
2. ยาสลายฟิลเลอร์
ยาสลายฟิลเลอร์ หรือ hyaluronidase เป็นยาที่ใช้สำหรับสลายฟิลเลอร์ครับ แต่ถูกนำมาใช้ผิดวิธีโดยฉีดยาสลายฟิลเลอร์ปริมาณมาก ๆ ทำให้คอลลาเจนถูกย่อยสลายไป ส่งผลให้เนื้อยุบลงอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อฉีดมาก ๆ จะทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอยก่อนวัยและผิวหย่อนคล้อยครับ
เมโสแฟต มีกี่ยี่ห้อ ? เลือกยี่ห้อไหนดี ?
ในปัจจุบันตัวยาที่ใช้สำหรับการฉีดเมโสแฟต มีหลายยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจาก อย. มีจุดเด่นต่างกันไป ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเลือกฉีดเมโสแฟตยี่ห้อไหนดี หมอมีแนะนำ ดังนี้
1. Phytobella
ฉีดแล้วยุบดี ไม่บวมแดง ไม่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ขณะฉีดจะรู้สึกแสบเล็กน้อย
2. เมโสแฟตยี่ห้อ BABI-Neo one
เมโสแฟตบาบิโลน จากประเทศเกาหลี ช่วยสลายไขมันพร้อมยกกระชับ หลังฉีดไม่มีอาการบวมแดง
3. เมโสแฟตยี่ห้อ FNC
เหมาะกับคนแก้มเยอะ ๆ ด้วยกลไกสลายไขมันด้วย Special Peptides ยุบดีและยุบไว
4. V Line
ฉีดแล้วยุบไว ช่วยป้องกันเซลลูไลท์ พร้อมยกกระชับ ขณะฉีดจะรู้สึกแสบกลาง ๆ
โดยการเลือกว่าจะใช้ เมโสแฟตยี่ห้อไหนดี หมอจะแนะนำให้ตามความเหมาะสม และขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ เช่น ถ้าอยากให้เห็นผลเร็ว ก็ควรเลือกยี่ห้อที่ออกฤทธิ์ไวครับ
เมโสแฟตของแท้ ของปลอม ดูอย่างไร ?
การสังเกตเมโสแฟตของแท้ ของปลอม สามารถดูได้จาก 3 ข้อ
- ยี่ห้อเมโสแฟต ต้องเป็นยี่ห้อที่ผ่านการนำเข้าอย่างถูกกฏหมาย โดยตรวจสอบจากเลข Lot บริษัทนำเข้า หรือ QR Code ที่หลังกล่อง
- ก่อนฉีดให้แพทย์แกะกล่อง เปิดขวดใหม่ ดูดยาต่อหน้าจนหมด เอากล่องและขวดกลับบ้านได้ เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่าเป็นของแท้
- ฉีดกับแพทย์ที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภา หมอกระเป๋าจะไม่สามารถซื้อยาแท้ที่ผ่าน อย. ได้ เพราะมีกฏหมายยาควบคุม
วิธีฉีดเมโสแฟต ด้วยตนเองทำได้ไหม ?
ไม่ควรซื้อเมโสแฟตมาฉีดเองเด็ดขาดครับ ตัวยาเมโสแฟตที่ได้มาตฐาน ผ่านอย.จะมีเฉพาะแพทย์เท่านั้นที่สามารถสั่งซื้อได้ครับ
ส่วนตัวยาเมโสแฟตที่ขายตามอินเทอร์เน็ตหรือเมโสแฟตที่ฉีดกับหมอกระเป๋า จะไม่ใช่ยาแท้ แต่เป็นเมโสแฟตปลอมที่อาจมีส่วนผสมที่อันตราย ไม่สะอาด ไม่ควรซื้อเมโสแฟตมาฉีดด้วยตนเองครับ เพราะเมื่อฉีดเข้าไปอาจทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อหรือเกิดผลข้างเคียงได้
วิธีฉีดเมโสแฟตที่ปลอดภัยและเห็นผล จึงควรฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดกับคนที่เป็นหมอจริง ๆ ซึ่งจะมีความรู้ด้านกายวิภาคโครงสร้างใบหน้าและร่างกาย ความตื้นลึกก็มีส่วนสำคัญในการฉีดเมโสแฟต ซึ่งเป็นเรื่องของเทคนิคเฉพาะตัวและความละเอียดอ่อนในการวิเคราะห์ เพราะคนไข้แต่ละคนมีกล้ามเนื้อและไขมันมากน้อยไม่เหมือนกันครับ
เมโสแฟต 1 ขวด กี่ cc ?
ปกติเมโสแฟต 1 ขวด มี 10 CC ครับ ซึ่งปริมาณที่แนะนำให้ฉีดในแต่ละครั้ง ไขมันของแต่ละคนไม่เท่ากัน หมอจะเป็นผู้ประเมินให้คนไข้ตามความเหมาะสม
การฉีดเมโสแฟต ต่างจากการฉีดโบท็อก (Botox) อย่างไร ?
โบท็อก คือ การฉีดสาร “Botulinum Toxin A” ซึ่งจะเหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหากับขนาดกล้ามเนื้อ หรือริ้วรอย ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมัน เนื่องจากโบท็อกออกฤทธิ์โดยตรงกับการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้ฝ่อหดเล็กลงชั่วคราว จึงเหมาะกับคนไข้ที่ต้องการฉีดเพื่อปรับแก้ไขรูปหน้าและลดริ้วรอยครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อก คืออะไร อันตรายไหม แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร และวิธีดูโบท็อกแท้
ฉีดเมโสแฟตควบคู่กับฉีดโบท็อกซ์ได้หรือไม่ ?
ทั้งเมโสแฟต และโบท็อก สามารถทำให้สัดส่วนของร่างกายบริเวณนั้นมีขนาดเล็กลงได้จากทั้งไขมันและกล้ามเนื้อที่เล็กลง แพทย์จะประเมินว่าในบริเวณที่เราต้องการจะลด เป็นไขมันหรือกล้ามเนื้อมากกว่ากัน จะได้แก้ไขได้ตรงจุด โดยสามารถทำทั้ง 2 อย่างควบคู่กันได้
ตัวอย่างเช่น คนไข้มาฉีดเมโสแฟตแก้ม เมโสแฟตเหนียง แนะนำให้ทำควบคู่กับโบท็อกลิฟกรอบหน้า หมอจะฉีดโบท็อกไปที่กล้ามเนื้อ Platysma บริเวณลำคอซึ่งเป็นกล้ามเนื้อส่วนที่ดึงผิวลง ทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย โดยหลังฉีดโบท็อก กล้ามเนื้อส่วนที่ดึงผิวขึ้นจะมีแรงมากกว่า ทำให้หน้ายกกระชับ แก้มลดลง เหนียงยุบลง ช่วยเสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เล็กลงได้ครับ
การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต
- คนไข้ต้องเข้าปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินใบหน้าและจุดที่ต้องการฉีด แจ้งประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัว
- ก่อนเข้ารับการฉีดเมโสแฟต 48 ชั่วโมง ต้องงดยาในกลุ่มของ แอสไพริน, NSAIDs และ Dipyridamole
- ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเมโสแฟตอย่างละเอียด ทั้งกระบวนการ ขั้นตอนการปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีด เพื่อความปลอดภัยและให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต
- เข้าปรึกษาแพทย์ แจ้งปัญหา ความต้องการ รวมถึงแจ้งการแพ้ยาและโรคประจำตัว
- หมอจะแนะนำยี่ห้อเมโสแฟตที่เหมาะสมกับคนไข้ ทั้งในด้านผลลัพธ์และราคา
- ทำความสะอาดใบหน้าในจุดที่ต้องการฉีด
- มีการประคบน้ำแข็งในจุดที่จะฉีด เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม
- หมอค่อย ๆ ดันตัวยาเมโสแฟตเข้าไปจนหมด
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีด Meso Fat
- แนะนำให้ทำ RF (การนวดยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่อง RF-Radio Frequency) เป็นตัวช่วยใน
- หลังฉีดเมโสแฟต ควรหลีกเลี่ยงการเข้าอบซาวน่าหรือการนวด ประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อไม่ให้เกิดการบวมช้ำมากขึ้น และลดการฟกช้ำให้น้อยลง
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่
- สามารถออกกำลังกายได้ สัปดาห์ละ 2-3 วัน อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที เพื่อช่วยขับไขมัน ออกจากร่างกายได้เร็วยิ่งขึ้น กล้ามเนื้อกระชับเร็วขึ้น และลดการสะสมของไขมันใหม่
และที่สำคัญคือ หลังจากเข้ารับการสลายไขมันด้วย Meso fat คนไข้ควรปรับพฤติกรรมการกินอาหารใหม่ และมีวินัยในการควบคุมน้ำหนักให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายกลับมาสะสมไขมันได้อีก
ฉีดเมโสแฟต เจ็บไหม ?
การฉีดเมโสแฟต ไม่เจ็บครับ จะมีรู้สึกตอนต้องจิ้มเข็มเข้าไป และตอนที่ดันตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวอาจรู้สึกแสบ ๆ เล็กน้อย
ฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผล กี่วันเข้าที่ ?
โดยปกติแล้วจะเห็นผลชัดเจนใน 2-3 สัปดาห์ครับ โดยไขมันจะสลายตัว 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและปริมาณไขมันของแต่ละคน ถ้าอยากให้เห็นผลเร็วขึ้นหมอแนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะไขมันที่สลายจะถูกขับออกทางปัสสาวะและการหายใจ การดื่มน้ำจะช่วยให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น
ฉีดเมโสแฟตอยู่ได้กี่เดือน อยู่ได้นานแค่ไหน ?
การฉีดเมโสแฟต ไม่ว่าจะเป็นเมโสแฟตเหนียง เมโสแฟตแก้มห้อย เมโสแฟตลดแก้ม ปกติแล้วจะสามารถรักษาผลลัพธ์ได้นาน 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันเดิมของคนไข้ และการดูแลตัวเอง การรับประทานอาหารที่จะไม่เพิ่มการสะสมของไขมัน
เมโสแฟตควรฉีดกี่ครั้ง ?
เมโสแฟต สามารถฉีดได้ถ้ารู้สึกว่าเริ่มมีไขมันส่วนเกิน หรือหากเคยฉีดไปแล้วและอยากให้สัดส่วนลดลงอีก ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ โดยการฉีดเมโสแฟตมีทั้งแบบเป็นรายครั้ง และแบบที่เป็นคอร์สครับ
ฉีดเมโสแฟต ฉีดได้บ่อยแค่ไหน ?
ถ้าอยากรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้นก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ตัวยาได้ทำงานเต็มที่โดยในระยะแรกอาจจะฉีดสัปดาห์ละครั้ง หรือสัปดาห์เว้นสัปดาห์
ฉีดเมโสแฟต ดีไหม ?
ในกระบวนการฉีดเมโสแฟต แพทย์จะฉีดเมโสแฟตเข้าสู่ผิวหนัง โดยคำนวณปริมาณเมโสแฟตที่เหมาะสมในการฉีดให้กับคนไข้แต่ละเคส สำหรับคนที่อยากสลายไขมันเฉพาะจุด ไม่อยากมีแผล ไม่มีเวลาพักฟื้น การฉีดเมโสแฟตจึงเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าครับ
รีวิว เมโสแฟต
เมโสแฟต ราคาเท่าไหร่ ? โปรโมชั่นฉีดเมโสแฟต
เมโสแฟต ที่ไหนดี ?
ก่อนตัดสินใจฉีดเมโสแฟต ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ยาแท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ โดยสามารถศึกษาวิธีเลือกคลินิกได้ในบทความ ฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี ? วิธีเลือกคลินิกต้องดูอย่างไร ? เพื่อความปลอดภัย เห็นผลได้จริง ?