
ยืนหนึ่งเรื่องปรับรูปหน้า
ร้อยไหม
การร้อยไหม คือ การใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยง สอดลงในชั้นผิวหนัง ผิวก็จะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามเส้นไหมในทิศทางที่ร้อยไหมเข้าไป คล้ายๆ ตะขอเกี่ยว สามารถทำได้ทั้งการร้อยไหมปรับรูปหน้า ร้อยไหมดึงหน้า ร้อยไหมกระชับหน้า ร้อยไหมจมูก
ในบทความนี้จะกล่าวถึง ข้อดี-ข้อเสีย ขั้นตอนการร้อยไหม ประโยชน์ของการร้อยไหม ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ และการเลือกชนิดเส้นไหมให้เหมาะกับหน้าของแต่ละคน สำหรับคนที่กำลังหาสถานที่ร้อยไหม ก่อนอื่น แนะนำให้อ่านบทความนี้ครับ
สารบัญร้อยไหม
- ร้อยไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- ร้อยไหมเหมาะกับใคร
- ร้อยไหมอันตรายไหม
- ผลข้างเคียงจากการร้อยไหม ที่สำคัญ
- ข้อดีข้อเสีย ร้อยไหม
- หลังร้อยไหม2สัปดาห์แล้วบวม เกิดจากอะไร
- เข็มร้อยไหมแบบต่างๆข้อดีข้อเสีย
- ทำไมร้อยไหมแล้วอยู่ไม่ถึง6เดือน
- ร้อยไหมแบบไหนดีสุด
- การดูแล ก่อน-หลัง ร้อยไหม เพื่อให้อยู่นานที่สุด
- ร้อยไหม โบท็อก ฟิลเลอร์ อัลเทอร่า ไฮฟู่ ทำอะไรดีสุด
- ร้อยไหมราคาเท่าไหร่
- รีวิวร้อยไหม
- บทความร้อยไหมที่น่าสนใจ
ร้อยไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
การร้อยไหม ถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมและรู้จักกันมานานครับ โดยสามารถช่วยได้หลายเรื่อง ได้แก่
- ร้อยไหม หน้าเรียว ปรับรูปหน้า
- ร้อยไหม ยกกระชับ แก้ปัญหาแก้มหย่อน
- ร้อยไหมจมูก เสริมจมูกให้โด่งสวย
- ร้อยไหม ช่วยลดริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว
การร้อยไหมเหมาะกับใครบ้าง?
การร้อยไหม เหมาะกับคนที่อยากยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย รวมถึงช่วยลดริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลรวดเร็วครับ
ในการร้อยไหม จะมีจุดที่ดึงบริเวณแก้มส่วนล่างและจุดที่ยึดอยู่บริเวณขมับดึงเข้าหากันจึงสามารถดึงแก้มที่หย่อนขึ้นได้ทันที
หลังการร้อยไหม จะทำให้ผิวบริเวณที่ร้อยไหมเข้าไป เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน และทำให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงชั้นผิวหนังมากขึ้น ช่วยให้ผิวมีความกระชับ เต่งตึงขึ้นอย่างชัดเจน
นอกจากนี้การร้อยไหม ยังสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ หรือ ไฮฟู่ โดยควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาร่วมกันครับ
ร้อยไหม อันตรายไหม?
ร้อยไหม ไม่อันตรายครับ ถ้าหากร้อยด้วยวิธีที่ถูกต้อง และใช้ไหมละลายที่ผ่านการรับรองจาก อย. รวมไปถึงเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยครับ
เมื่อเวลาผ่านไป 6-18 เดือน เส้นไหมก็จะละลายไปโดยไม่เป็นอันตราย การร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็จะเกิดเป็นเส้นใยอิลาสตินช่วยประคองผิว คล้ายเส้นเอ็นที่มีอยู่ตามธรรมชาติของร่างกายครับ
ผลข้างเคียงจากการร้อยไหม ที่ควรรู้?
ผลข้างเคียงปกติที่เกิดขึ้นได้
- มีอาการบวม หรือเขียวช้ำ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเองใน 7 - 14 วัน
- ขณะทำจะรู้สึกถึงเส้นไหมที่ถูกร้อยเข้าไปบนใบหน้า
- อาจมีเลือดออกบริเวณที่แทงเข็มเข้าไป
สำหรับผลข้างเคียงที่อันตราย เช่น ไหมทะลุ ไหมขาด เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อ ติดเชื้อ ผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะเกิดจากการร้อยไหมกับหมอเถื่อน คลินิกเถื่อน ไม่ได้ใช้ไหมที่ปลอดภัย ดังนั้นก่อนตัดสินใจ ร้อยไหม ควรพิถีพิถันในการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ
ร้อยไหม มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร?
No. | ข้อดี |
---|---|
1. | เงี่ยงไหมที่คล้ายตะขอจะเกี่ยวดึงผิวขึ้นได้ทันที หลังร้อยไหมเห็นผลได้ทันที |
2. | เส้นใยดังกล่าว ถ้าอยู่ในแนวที่ถูกต้อง และชั้นผิวที่เหมาะสม ก็จะสามารถช่วยประคองผิว กระชับผิว คล้ายๆ เส้นเอ็นที่อยู่บนใบหน้าตามธรรมชาติ |
3. | ไหมละลายที่ปลอดภัยสำหรับการร้อยไหมในปัจจุบันทำจากวัสดุ 3 ชนิดPDO (Polydioxanone)PLLA (Polylactate)PCL (Polycaprolactone)ซึ่งวัสดุทั้ง 3 ชนิดนี้ ผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัยในการเย็บแผลครับ |
4. | ไหมละลายในปัจจุบัน ไม่มีส่วนผสมของโลหะ สามารถละลายได้หมด 100% ตามระยะเวลา โดยไม่มีสารตกค้าง จะเหลือเพียงเส้นใย elastin ที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาซึ่งช่วยประคองผิว |
5. | ในคนที่แก้มตอบบางเคสสามารถใช้ไหมดึงไขมันขึ้นมาเติมแก้มได้ แก้มล่างยุบและแก้มบนเต็มขึ้น(ต้องมีเนื้อแก้มส่วนล่างให้ดึงนะครับ ถ้าไม่มีเนื้อก็ต้องใช้ฟิลเลอร์) |
6. | หาก ร้อยไหม กับแพทย์ที่มีความชำนาญ และร้อยด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ก็จะลดความเสี่ยงในการบวมช้ำลงได้มาก |
7. | การร้อยไหมเส้นเล็กๆ สามารถแก้ริ้วรอยในบางจุดได้เช่น ริ้วรอยเล็กๆ บริเวณมุมปากที่คล้ายๆ ลักยิ้ม หรือริ้วรอยหางตา, หน้าผาก ในเคสที่ดื้อโบท็อก |
No. | ข้อเสีย |
---|---|
1. | บนเส้นไหมจะมีเงี่ยงที่ทำหน้าที่คล้ายตะขอสำหรับดึงผิวไปในทิศที่ต้องการ ถ้าร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้องหรือร้อยตื้นเกินไป จะเกิดรอยบุ๋มขึ้นตามแนวที่ร้อยไหมได้ |
2. | เส้นไหมจะกระตุ้นให้ fibroblast (เซลล์สร้างคอลลาเจน) เกิดการสร้างเส้นใย collagen และ elastin แต่ถ้าซ้อนทับกันมากเกินไป และอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องก็จะเรียกว่า พังผืด (fibrosis) ถ้าอยู่ในผิวชั้นตื้นเกินไป ก็จะดึงรั้งผิวให้ผิดรูปได้ |
3. | ไหมละลายมีอายุ 4 เดือน-2 ปี ขึ้นกับชนิดของเส้นไหม แต่ถึงแม้ไหมจะยังละลายไม่หมด ในคนส่วนมาก เมื่อเวลาผ่านไป 6-8เดือน ผิวก็จะหลุดออกจากเส้นไหมได้ก่อน ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่าตามที่โฆษณาและไหมละลายบางชนิดที่อยู่ได้นาน แต่ขาดความยืดหยุ่น เมื่อเวลาผ่านไปจะเกิดการเคลื่อนตัวและทะลุโผล่ออกมานอกผิวหนังได้ |
4. | หากเป็นไหมยุคโบราณ ที่มีส่วนผสมของโลหะ เช่นทองคำ โลหะจะดูดความร้อนจากการทำ X-ray, MRI, เครื่องสแกนต่างๆ และจะทำให้ผิวไหม้ได้ |
5. | ในทรงหน้าของบางเคสที่โหนกแก้มเด่น หากร้อยไหมจะยิ่งทำให้โหนกแก้มเด่นขึ้น และไม่สวยแนะนำให้ปรับรูปหน้าด้วยวิธีอื่นแทนเช่น ฟิลเลอร์แก้มตอบ |
6. | ในการร้อยไหม มีความเสี่ยงที่จะเกิดการบวมช้ำหลังทำค่อนข้างสูง ทั้งจากการฉีดยาชา และเลือดที่ออกใต้ผิวหนัง ถึงแม้หลังทำทันทีจะบวมน้อย แต่ก็อาจจะบวมมากขึ้นในช่วง 3-4 วันแรก ซึ่งส่วนมากก็จะหายได้เองภายใน 7-14 วัน |
7. | บางคลินิกใช้การร้อยไหมเติมแทนฟิลเลอร์ อันนี้ไม่แนะนำให้ทำครับ เพราะการเติมเต็มใต้ตาร่องแก้มต้องใช้ปริมาณเส้นไหมจำนวนมาก (เป็นร้อยๆ เส้น) จะทำให้เกิดพังผืด และเกิดปัญหาในอนาคตครับบางคลินิกนำไหมไปปั่นเป็นผงเล็กๆ (ไหมน้ำ) แล้วฉีดแทนฟิลเลอร์ อันนี้ก็ทำให้เกิดพังผืดครับ ไม่แนะนำครับ |
ร้อยไหมแล้วหน้าบวม 14 วัน เกิดจากอะไร?
เกิดได้จาก 4 สาเหตุหลักๆ ครับ
1. เนื้อแก้มเยอะ หรือดึงเยอะเกินไป
วิธีร้อยไหมที่หน้าในคนที่มีเนื้อแก้มเยอะ หมอแนะนำให้ทำเมโสแฟต ให้แก้มน้อยลงก่อนครับ จะทำให้สามารถดึงไหมได้เยอะขึ้นเพราะประโยชน์ของการร้อยไหมไม่ได้ช่วยลดไขมันบนใบหน้าครับ
ถ้าคนที่ใจร้อนก็สามารถร้อยไหมได้ แต่ก็จะดึงได้น้อยลง ถ้าดึงเยอะเนื้อแก้มก็จะไปกองด้านบน ทำให้ดูเหมือนหน้าบวมได้ครับ ซึ่งในกรณีแบบนี้จะบวมนานเกิน 1 เดือน ต้องรอให้ไหมเริ่มคลาย 2-3 เดือนถึงจะเริ่มดีขึ้น
ในบางเคสที่เนื้อแก้มเยอะ การร้อยไหมจะช่วยให้เนื้อแก้มน้อยลงได้ครับ โดยผ่านกระบวนการ fat-reposition (การดึงไขมัน) ด้วยการร้อยไหม แต่จะต้องใช้เวลาหลายเดือน และต้องร้อยไหมหลายครั้งครับ
2. การดึงไหมผิดแนว
ถ้า ร้อยไหม เพื่อดึงร่องแก้ม จะทำให้โหนกแก้มเนื้อเยอะขึ้นและทำให้หน้าดูบวมได้ครับ ปกติการร้อยไหมจะเน้นแก้ไขความหย่อนของแก้มในบริเวณใกล้ๆ มุมปาก ร้อยไหมกรอบหน้ามากกว่าครับ
จะเห็นว่าการร้อยไหมนั้นต้องอาศัยเทคนิคและความชำนาญในการประเมินทรงหน้าของแพทย์ด้วยครับ จึงจะทำให้ผลในการร้อยไหมออกมาสวยและเข้ารูป
3. การอักเสบติดเชื้อ
ปกติหลังร้อยไหม ในช่วง 3-4 วันแรกจะมีอาการบวม และหลังจากนั้นอาการบวมจะเริ่มยุบลงจนเข้าที่ใน 14 วัน แต่ถ้าหลังจาก 4 วันแล้วยังบวมแดงมากขึ้น ปวดมากขึ้น ต้องรีบกลับมาพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินและให้ยากินเพิ่มครับ
4. บวมเลือด, บวมน้ำ
- บวมเลือด คือ มีเลือดออกในชั้นผิว (hematoma)
- บวมน้ำ คือ มีน้ำคั่งในชั้นผิวจากการอักเสบ (edema)
ซึ่งทั้ง 2 กรณี จะยุบหายไปเองในระยะ 2-3 อาทิตย์ โดยไม่มีอันตราย
ในการร้อยไหม จะใช้เข็มเพื่อนำเส้นไหมเข้าสู่ผิว ซึ่งเข็มที่ใช้จะมีลักษณะแตกต่างกัน เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมเลือดและบวมน้ำได้ครับ
เข็มร้อยไหมแต่ละแบบ แตกต่างกันอย่างไร?
A. เข็มแหลม มีโอกาสเกิดการ บวมเลือด > บวมน้ำ
จะตัดผ่านเนื้อคล้ายๆ การใช้มีดคมๆ ตัด จะเจ็บน้อยกว่า บวมน้ำน้อยกว่า เส้นเลือดเล็กๆ ที่โดนตัดผ่านจะสมานได้ไวกว่าการใช้เข็มทู่ แต่ถ้าโดนเส้นเลือดใหญ่ก็จะมีโอกาสบวมเลือดได้ครับ ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์
B. เข็มทู่ มีโอกาสเกิดการ เกิดการ บวมน้ำ > บวมเลือด
จะผ่านเนื้อโดยการฉีกออกคล้ายๆ การใช้มีดทื่อๆ ตัด จะเจ็บมากกว่า บวมน้ำเยอะกว่า สามารถหลบเส้นเลือดใหญ่ๆ ได้ แต่เส้นเลือดเล็กๆ ก็ยังโดนฉีกขาดอยู่ดีครับ ยังมีเลือดออกได้ ในการร้อยไหมเข็มทู่ที่ใช้จะใหญ่กว่าเข็มทู่ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ครับ จึงบวมช้ำเยอะกว่าฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ถ้าใช้เข็มแหลม ผลที่ออกมาจะสวยกว่าเข็มทู่ครับ แต่เสี่ยงเข้าหลอดเลือด ฟิลเลอร์จึงจำเป็นต้องใช้เข็มทู่ แต่สำหรับการร้อยไหมหมอบางท่านจะถนัดเข็มแหลมมากกว่า เพราะสามารถควบคุมความแม่นยำได้ดีกว่าครับ
C. เข็มตัด เป็นกึ่งแหลมกึ่งทู่ครับ
D. เข็ม L พัฒนาต่อจากเข็มตัดอีกขั้นหนึ่งครับ
เข็มแต่ละประเภทไม่สามารถระบุได้ว่าชนิดไหนดีที่สุดครับ ขึ้นกับการประเมินเนื้อเยื่อของคนไข้และความถนัดของหมอแต่ละคนครับ เช่น ถ้าคนไข้เคยเป็นสิว และมีพังผืดเยอะ การใช้เข็มทู่ก็จะบวมช้ำมากกว่าเข็มแหลมครับ ที่ V Square Clinic จะมีเข็มทุกแบบ ซึ่งหมอจะประเมินและเลือกใช้ให้เหมาะกับคนไข้แต่ละคนครับ
ทำไมร้อยไหม 3-4 เดือน ก็คลายแล้ว?
การที่ไหมจะดึงผิวไว้ได้ มี 3 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้ครับ
1. Elastin ในเนื้อของคนไข้
เมื่อร้อยไหมยกกระชับหน้า จะใช้เส้นไหมที่มีเงี่ยงใช้เกี่ยวเนื้อคล้ายๆ ตะขอ แต่หากเนื้อเยื่อที่เกี่ยว เกิดความเสื่อมสภาพ เงี่ยงก็จะไม่สามารถเกาะอยู่ได้นานครับ เนื้อจะหลุดออกจากเส้นไหม ก่อนที่ไหมจะละลายเสียอีก โดยเฉลี่ยอายุของ elastin ในผิวคือ 6 เดือนครับ
การร้อยไหมในคนอายุเยอะ ผลที่ได้จะอยู้ได้สั้นลงครับ เพราะในผิวขาด elastin แต่เมื่อร้อยเพิ่มหลายๆ ครั้งจะอยู่ได้นานขึ้นเพราะการร้อยไหมจะช่วยกระตุ้นการสร้าง elastin ครับ
2. การสร้าง elastin
แม้เส้นไหมจะละลายไป แต่หากเนื้อเยื่อมีการสร้าง elastin ขึ้นมาเยอะ(คล้าย ๆ แปะกาว) ความกระชับก็ยังคงอยู่ได้ครับ
3. อายุของเส้นไหม
วัสดุที่ใช้ ร้อยไหม ได้ปลอดภัยมี 3 ชนิดคือ PCL / PLLA / PDO เรียงในรูปตามลำดับ
- PCL (Polycaprolactone) ละลายหมดภายใน 18-24 เดือน เส้นสีขาวขุ่น มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด เส้นใหญ่ที่สุด
- PLLA (Polylactate) ละลายหมดภายใน 12-18 เดือน เส้นสีขาวใส ขาดความยืดหยุ่น อาจจะพบปัญหา ไหมขาด ไหมทะลุได้บ่อย
- PDO (Polydioxanone) จะละลายหมดภายใน 4-6 เดือน เส้นสีน้ำเงิน มีความยืดหยุ่นสูงเป็นที่นิยมมากที่สุด
ร้อยไหมอะไรดีที่สุด?
ในการร้อยไหมดึงหน้า ร้อยไหมยกกระชับหน้า คลินิกต่างๆ จะมีชื่อเรียกไหมแต่ละชนิดมากมาย เช่น ไหมกุหลาบ, ไหมปิรันย่า, ไหมทับทิม, ไหมทอนาโด ฯลฯ เป็นชื่อที่ไม่เป็นสากลครับ คลินิกต่างๆ ตั้งชื่อกันขึ้นมาเองเพื่อให้คนไข้ไม่สามารถเช็ค ราคาร้อยไหม เทียบกับคลินิกอื่น ๆ ได้ครับ
*เราสามารถสอบถามทางคลินิกเพิ่มเติมได้ครับว่าร้อยไหมชนิดไหน โดยดูตามลักษณะเส้นไหมด้านล่างนี้ครับ
แท้ที่จริงแล้วเราแยกชนิดไหมหลักๆ ได้ดังนี้ครับ
ตามชนิดวัสดุ PDO, PLLA, PCL
ตามลักษณะเส้นไหม
ในรูปนี้คือวัสดุ PDO จะเป็นสีน้ำเงินครับ ถ้า PLLA จะเป็นสีขาวใส, PCL จะสีขาวขุ่น ซึ่งจากประสบการณ์พบว่าไหมที่ดึงหน้าได้ดีที่สุดคือไหมเงี่ยงใหญ่ครับ เป็นที่นิยมใช้ในทุกคลินิก แล้วแต่ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไร และตั้งราคาร้อยไหม ต่างกันเท่านั้นเอง
ข้อปฏิบัติตัว ก่อน-หลัง ร้อยไหม เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น
ก่อนร้อยไหม
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินโครงสร้างใบหน้าและปัญหาที่ต้องการแก้ไข เพื่อวางแผนการรักษา
- เมื่อปรึกษาแพทย์เรียบร้อยแล้ว ถ้าพร้อมก็สามารถร้อยไหมได้เลยครับ ควรแจ้งประวัติการแพ้ยา วิตามินและยาที่ทานประจำ (ก่อนร้อยไหมควรงดยาและวิตามิน เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ginseng และ Vitamin E)
- 24 ชั่วโมงก่อนร้อยไหม ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
- ทางคลินิกจะมีการฉีดยาชาให้ก่อนร้อยไหม
การดูแลตัวเอง หลังร้อยไหม
- หลังร้อยเสร็จทันที อาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ ในจุดที่ร้อยไหมได้เป็นปกติ หายไปเองใน 2-3 วัน ห้ามแกะ เกา หรือกดนวด
- ทางคลินิกจะมีการจ่ายยาแก้ปวด ลดบวมให้
- ช่วง 3 วันแรก ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ อาจทำให้ไหมเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
- งดยิงเซเลอร์ร้อน และหัตถการอื่นๆ ที่ใช้ความร้อน เป็นเวลา 2 เดือน
ในการดูแลตัวเองหลังร้อยไหม เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ข้อสำคัญคือควรปฏิบัติตามข้อแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดครับ โดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เกี่ยวกับความร้อนและควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสัมผัสใบหน้า
ร้อยไหม vs ฟิลเลอร์ vs โบท็อก vs Ulthera/Hifu ควรทำอะไรดี?
แบ่งได้ง่ายๆ ตามนี้ครับ
- ร้อยไหม เหมาะสำหรับคนที่แก้มหย่อนมากๆ จะเห็นผลได้ชัดเจน โดยที่ราคาไม่แพง
- อัลเทอร่า/ไฮฟู่ เหมาะสำหรับคนที่แก้มหย่อนไม่มาก เห็นผลไม่ชัดเจนเท่าร้อยไหม และราคาค่อนข้างสูง เหมาะกับคนที่กลัวเข็ม
- ฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับคนที่หน้าหย่อนคล้อยจากร่องใต้ตาร่องแก้มที่ลึก
- โบท็อก สำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อกรามเยอะ(กัดฟันแล้วกรามเด้งเยอะ) ร่วมกับมีริ้วรอยบริเวณหางตา-หน้าผาก
ร้อยไหมแต่ละชนิด ราคาเท่าไหร่?
การร้อยไหม ราคาจะแตกต่างกันไปตามชนิดของไหม วัสดุ และจำนวนเส้นไหมที่ใช้ครับ สำหรับที่ V Square Clinic ใช้เส้นไหม PCL และ PDO ที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัยครับ
รีวิว ร้อยไหมยกกระชับหน้า
หลังทำทันที ส่วนที่ตอบลงไปกลับมาอิ่มเอิบ แก้มยกกระชับ ใบหน้าเรียวสวยเข้ารูป
รีวิวเพิ่มเติม
-รีวิวร้อยไหมก้างปลา แก้หน้าตอบ แก้มห้อย ให้เต็มและดูเข้ารูป
-แก้ไขแก้มห้อย กรามกว้างชัด หน้าไม่เรียว
*ผลการรักษาแตกต่างกันแต่ละบุคคล
Q&A : ร้อยไหม
ร้อยไหม กี่วันเห็นผล?
การร้อยไหมยกกระชับใบหน้า จะเห็นผลทันทีหลังทำ และเห็นผลชัดเจน สวยเข้ารูปใน 1 เดือน ครับ หากมีอาการบวม จะหายไปเองใน 14 วัน
ร้อยไหม เจ็บไหม?
ระหว่าง ร้อยไหม คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บครับ เพราะก่อนทำจะมีการฉีดยาชาให้ก่อน อาจจะรู้สึกตอนที่หมอกำลังร้อยไหมเข้าไป เป็นเรื่องปกติครับ
ร้อยไหม ต้องใช้ยาชาหรือไม่?
การร้อยไหมต้องฉีดยาชาทุกครั้ง โดยที่คลินิกจะมีการทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะร้อยไหมให้ก่อนครับ
ร้อยไหม ใช้เวลานานหรือไม่?
การร้อยไหมใช้เวลา 45-60 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนไหมที่ใช้ร้อย และเทคนิคของแพทย์ด้วยครับ
ถ้าไม่ร้อยไหมซ้ำ ทำให้หน้าเหี่ยวจริงไหม?
ไม่จริงครับ เมื่อไหมละลายไปแล้วก็ยังเหลือเส้นใย elastin ที่จะช่วยประคองผิวไว้ ถ้าร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ถูกต้องจะทำให้ผิวกระชับกว่าก่อนร้อยแน่นอนครับ
ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน ร้อยไหมช่วยได้ไหม?
ช่วยได้ครับ ในเคสที่หน้าไม่เท่ากันจากการที่แก้มย้อยหรือแก้มหย่อน สองข้างไม่เท่ากัน โดยหมอจะใช้แรงดึงไหมทั้งสองข้างตามปัญหา ข้างที่แก้มหย่อนกว่าก็จะใช้แรงมากกว่า เพื่อให้ใบหน้าทั้งสองข้างเท่ากันครับ
สรุป
การร้อยไหม ถือเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์รวดเร็วครับ ช่วยแก้ปัญหาแก้มหย่อน แก้มย้อย ผิว กรอบหน้าไม่กระชับ ได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินปัญหานั้นๆ ก่อนทำทุกครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยครับ