หลังฉีดโบท็อกควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?
- หลังฉีดโบท็อกควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
- งดนอนราบ 3 ชม.
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู หรืออาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ
- หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า ควรงด 2 สัปดาห์หลังทำ
[ข้อห้าม] หลังฉีดโบท็อก เพื่อให้โบท็อกอยู่ได้นานกว่าปกติ
หลังฉีดโบท็อก ควรปฎิบัติตัวแบบไหนที่จะทำให้ โบท็อกสลายช้าที่สุด
1. หลังฉีดโบท็อกทันทีในแต่ละบริเวณ ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
หลังจากฉีดเสร็จทั้งหมด ควรบริหารกล้ามเนื้อทั้งหมดที่ฉีดเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด เหลือส่วนที่จะปลิวไปน้อยที่สุด แต่ช่วงหลังฉีดที่ขยับกล้ามเนื้อ ก็ไม่ควรประคบเย็นเพราะจะขัดขวางการดูดโบท็อกเข้าเซลล์ประสาท (นั่นคือเราใช้ความเย็นบล็อกรอบ ๆ ตอนฉีด แล้วขยับกล้ามเนื้อหลังฉีดเพื่อดึงโบท็อกเข้าเซลล์ครับ)
หลังฉีด เราควรรีบขยับกล้ามเนื้อแบบในรูปฝั่งซ้ายมือทันทีครับ ถ้าฉีดกรามก็ใช้วิธีเคี้ยวหมากฝรั่งหรือกัดฟันทันทีหลังฉีด
2. หลังฉีดโบท็อก ควรงดนอนราบ 3 ชม.
อาการหลังฉีดโบท็อก > หลังฉีดโบ หน้าบวมได้เป็นปกติครับ ให้ดูแลตัวเองอย่าแกะเกานวดบริเวณที่ฉีด รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่หน้าเยอะขึ้น โบท็อกจะปลิวไปเยอะขึ้น
สำหรับโบท็อกส่วนที่ 1 ที่อยู่ในเซลล์ประสาท ทำหน้าที่ยับยั้งกล้ามเนื้อ จะต้องใช้เวลา 7-14 วัน กว่าที่จะเริ่มเห็นผลการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ และความเข้มข้นของโบท็อก จะค่อย ๆ ลดลงตามเวลา ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โบท็อกย่อยสลายไวขึ้น คือ ความร้อน และการไหลเวียนของเลือด (Metabolism)
3. ในงานวิจัยพบว่าการกินแร่ธาตุ zinc 50 mg ก่อนและหลังการฉีดโบท็อก ช่วยให้โบท็อกออกฤทธ์ไวขึ้น ออกฤทธิ์ดีขึ้น
และช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น แต่ในบางเคสก็ทำให้เกิดผลข้างเคียงของโบท็อกได้มากขึ้นครับ เพราะเสริมฤทธิ์รุนแรงเกินไป ดังนั้นในการกินธาตุสังกะสีปริมาณมาก ๆ จึงแนะนำให้กินตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้นนะครับ ส่วนมากจะใช้ในเคสที่มีอาการขาดแร่ธาตุสังกะสีชัดเจน หรือเคสที่เริ่มดื้อโบท็อก (อาการคือฉีดแล้วอยู่ได้ไม่นาน) เท่านั้นครับ
แต่หากกินจากอาหารหรือกินในปริมาณปกติตามที่ Thai RDA กำหนด คือไม่เกิน 15-20 mg/วัน ก็สามารถกินเสริมได้ปกติครับ ในคนที่สังเกตตัวเองว่ามีอาการขาดธาตุสังกะสี เช่น ผมร่วงแตกปลาย, เป็นแผลเรื้อรัง, ผิวแห้งลอก, เป็นผื่นง่าย, เล็บแห้งเปราะหักง่าย, ก็แนะนำให้กินก่อนหรือ หลังฉีดโบท็อก ได้ครับ จะช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นครับ
ข้อมูลเกี่ยวกับแร่ธาตุสังกะสีในอาหาร
- เนื้อสัตว์ อาหารทะเล 1.5-4 mg/100 g
- หอยนางรม 75 mg/100 g
- ตับ 4-7 mg/100 g
- ไข่แดง 1.5 mg/100 g
- ในพืชผักผลไม้มีปริมาณน้อยและดูดซึมได้ยาก
จากข้อมูลจะเห็นว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อยเลยครับที่น่าจะขาดแร่ธาตุสังกะสี และยิ่งอายุมากขึ้นก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการขาดธาตุสังกะสีมากขึ้นอีกครับ
การทำงานของโบท็อกที่อยู่ในเซลล์ประสาท จะต้องอาศัยแร่ธาตุ zinc (สังกะสี) เป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งในการสำรวจคนอเมริกันพบว่า 30% มีอาการขาดธาตุสังกะสี (ยังไม่มีการสำรวจในคนไทย) ซึ่งจะทำให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ช้าลง ออกฤทธิ์ได้น้อยลง และผลโบท็อกอยู่ได้สั้นลง https://www.ncbi.nlm.nih.gov/m/pubmed/22453589/
4. ควรฉีดโบท็อกต่อเนื่องในระยะที่เหมาะสม
ไม่ฉีดถี่เกินไป (อย่างต่ำควรเว้น 3เดือน) และไม่เว้นระยะห่างเกินไป(ไม่ควรเว้นเกิน 5-6 เดือน) เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติ และอาจจะต้องใช้ยูนิตของโบท็อกเยอะขึ้น
ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อก
1. ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง
โดยเฉพาะในช่วง 2 อาทิตย์แรกหลังฉีด (หากทำไม่ได้ก็ขออย่างน้อย 48 ชม.หลังฉีดครับ) เช่น เข้าซาวน่า, ออกกำลังกายหนัก ๆ , ตากแดด, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, เลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage งดนอนคว่ำ, งดก้มหัวต่ำกว่าอก
2. หลังฉีดโบท็อก ห้ามกินอะไรบ้าง
ในระยะ 14 วันหลังฉีด (ถ้าทำไม่ได้ก็ควรงดอย่างน้อย 48 ชม.)
- หลังฉีดโบท็อก ควรเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
- หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ
- หลังฉีดโบท็อก ควร อาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
- อาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
- หลังฉีดโบท็อก ควรงดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด
ในกรณีหลังจาก 2 อาทิตย์ไปแล้ว กิจกรรมเหล่านี้จะส่งผลต่ออายุของโบท็อกได้บ้าง แต่ไม่มาก ที่มีผลมากที่สุดคือ การเข้าซาวน่า และเลเซอร์ร้อน ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องงด
3. หลังฉีดโบท็อก ออกกําลังกายหนัก ๆ ต้องงดไหม?
การงดออกกำลังกายเพื่อทำให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นอันนี้ไม่คุ้มครับ เพราะการออกกำลังกายดีต่อสุขภาพ และช่วยให้ผิวใสขึ้น แค่หลีกเลี่ยงความร้อนเท่าที่ทำได้ก็พอครับ
หลังฉีดโบท็อก ควรหลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงทุกชนิดเป็นเวลา 14 วันครับ (หากทำไม่ได้ก็ขออย่างน้อย 48 ชม. หลังฉีดครับ)
สรุป timeline ข้อปฎิบัติตัวในการฉีดโบท็อก
ก่อนฉีดโบท็อก
- ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ”โบท็อกแท้”
- ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน-หมอมีประสบการณ์
- หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือคอร์สเลเซอร์ที่ต้องทำเป็นประจำ ควรถือโอกาสทำมาก่อนฉีดโบท็อก เพราะหลังฉีดจะต้องงดไป 2 อาทิตย์ จึงจะทำต่อได้
- ควรงดยาในกลุ่มที่ลดการแข็งตัวของเลือดเช่น NSAIDs, แอสไพริน และงดสครับหน้า 2-3 วันก่อนฉีด จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเขียวช้ำ
- หากมีข้อห้ามในการฉีดโบท็อกให้ปรึกษาแพทย์
- หากมีอาการขาดธาตุสังกะสี ควรเริ่มกินอาหารที่มีธาตุสังกะสี หรือกินอาหารเสริม แต่ไม่ควรกินเกิน 20 mg/วัน ซึ่งจะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ไวขึ้น (ไม่จำเป็นต้องกินก่อนฉีด สามารถกินหลังฉีดก็ได้ ก็สามารถช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นเช่นกัน)
ระหว่างฉีดโบท็อก
- หลังฉีดโบท็อก ในแต่ละบริเวณเสร็จทันที ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดแล้วทันที 1-2 ครั้ง
- หลังจากฉีดเสร็จทั้งหมด ควรบริหารกล้ามเนื้อทั้งหมดที่ฉีด เช่น ยักคิ้ว ขมวดคิ้ว ยิ้มเยอะ ๆ เคี้ยวหมากฝรั่ง เป็นเวลา 30 นาทีหลังฉีด
หลังฉีดโบท็อก 3 ชม.
- ไม่ควรประคบเย็นเพราะจะขัดขวางการดูดโบท็อกเข้าเซลล์ประสาท
- ไม่ควรนอนราบ รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ
หลังฉีดโบท็อก 24 ชม.
- สามารถทาครีมทับบริเวณเข็มได้ และแต่งหน้าทับได้ปกติ
หลังฉีดโบท็อก 48 ชม.
- หากสามารถหลีกเลี่ยงอาหารและความร้อน ตามข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกได้ ก็จะได้รับผลโบท็อก 90 % จากปกติแล้ว
หลังฉีดโบท็อก 2-3 วัน
- บางคนอาจมีผลข้างเคียงชนิดไม่อันตรายเช่น ปวดหัว ตาพร่า คอแห้ง ซึ่งผลข้างเคียงนี้เป็นแค่ชั่วคราวจะหายได้เองใน7-14วัน หากอาการเป็นมากสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาได้ อาการปวดหัวสามารถประคบเย็นได้
- บางคนจะเริ่มเห็นผลจากการฉีดลดริ้วรอยบางส่วน
หลังฉีดโบท็อก 7-10 วัน
- หลังฉีดโบ หน้าบวมได้เล็กน้อย รอยเขียวช้ำอาจจะยังมีอยู่จะค่อย ๆ จางลงเองใน 14 วัน ไม่ควรประคบร้อน
หลังฉีดโบท็อก 14 วัน
- หากสามารถหลีกเลี่ยงอาหารและความร้อนได้ครบ 14 วัน ก็จะได้รับผลโบท็อก 100% จากปกติ
- เห็นผลจากการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยเกือบเต็มที่แล้ว
- เห็นผลจากการฉีดโบท็อกลดกรามคือ กัดกรามจะไม่เด้ง แต่กรามจะยังไม่ยุบลง ต้องใช้เวลา 2 เดือนจึงจะยุบเต็มที่
หลังฉีดโบท็อก 14 วัน จนถึงการฉีดโบท็อกครั้งต่อไป
- สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ และพยายามหลีกเลี่ยงความร้อน
- พยายามกินอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี
- ควรฉีดโบท็อกต่อเนื่องในระยะที่เหมาะสม ไม่ฉีดถี่เกินไป(อย่างต่ำควรเว้น 3 เดือน) และไม่เว้นระยะห่างเกินไป(ไม่ควรเว้นเกิน 5-6 เดือน)
- ให้พยายามเปลี่ยนนิสัยในการขยับกล้ามเนื้อจุดที่ฉีดโบท็อก ให้น้อยลง
ข้อห้ามการฉีดโบท็อก ที่อันตรายถึงชีวิต
เอกสารอ้างอิง
https://www.allergan.com/miscellaneous-pages/allergan-pdf-files/botox_med_guide
https://www.drugs.com/drug-interactions/onabotulinumtoxina,botox-index.html
ข้อห้ามการฉีดโบท็อก แบบที่ไม่สามารถฉีดได้ (Absolute contraindication)
- คนที่มีปัญหาเรื่อง โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง อาจจะอันตรายถึงชีวิต
- คนที่มีปัญหาเรื่อง กล้ามเนื้อในการกลืน
- คนที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงต่าง ๆ เช่น
- - amyotrophic lateral sclerosis (ALS)
- - Lou Gehrig's disease
- - myasthenia gravis
- - Lambert-Eaton syndrome
- มีอาการติดเชื้อที่ผิวหนังในจุดที่จะฉีดโบท็อก
- มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือ มีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
ข้อห้ามการฉีดโบท็อก ที่ควรระวัง
สามารถฉีดได้แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
- มีประวัติเคยแพ้ส่วนผสมของโบท็อก
- โบท็อกประกอบด้วย : Botulinum toxin type A, Human albumin, Sodium chloride
- ในคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ยังไม่มีการศึกษาที่รับรองความปลอดภัยของการฉีดโบท็อก
- สำหรับคนที่อายุ 12-18 ปี มีการศึกษารับรองความปลอดภัยในบางกรณีเท่านั้น (ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)
ข้อมูลอื่น ๆ ที่คนไข้ควรแจ้งแพทย์
- เคยมีผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกครั้งก่อน ๆ
- มีภาวะเลือดหยุดยาก เขียวช้ำง่าย
- มีกำหนดการที่จะผ่าตัด
- เคยผ่าตัดที่ใบหน้ามาก่อน
- มีภาวะหนังตาตกอยู่
- หัตถการต่าง ๆ ที่เคยทำบนใบหน้ามาก่อน เช่น โบท็อก ฟิลเลอร์ ร้อยไหม เมโส เลเซอร์ต่าง ๆ
- อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการศึกษายืนยันว่าโบท็อกเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือไม่
- ให้นมบุตร ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการศึกษายืนยันว่าโบท็อก สามารถผ่านไปทางน้ำนมได้หรือไม่
หลังฉีดโบท็อก ห้ามกินยาอะไร?
ควรแจ้งแพทย์ถึงยาที่คนไข้ใช้อยู่ปัจจุบัน ยาที่ได้รับพร้อมกับโบท็อกแล้วเกิดอันตรายมาก (Major side effect) ได้แก่
กลุ่มยาฆ่าเชื้อ ”แบบฉีด” บางตัว ไม่ใช่เพราะว่าเชื้อโบท็อกจะโดนทำลายแบบความรู้ผิด ๆ ที่เผยแพร่ในอินเตอเน็ตนะครับ แต่ยาฆ่าเชื้อบางตัวสามารถเสริมฤทธิ์โบท็อกแล้วเกิดอันตรายได้ ห้ามใช้ร่วมกับโบท็อก amikacin, colistin, polymyxin E, gentamicin, kanamycin, neomycin, netilmicin, plazomicin, polymyxin B, spectinomycin, streptomycin, tobramycin.
กลุ่มยาคลายกล้ามเนื้อ atracurium, cisatracuirum, doxacurium, metocurine, mivacurium, pancuronium, pipecuronium, rapacuronium, rocuronium, succinylcholine, tubocurarine, vecuronium.
ยาฆ่าเชื้อและยาคลายกล้ามเนื้อที่อยู่นอกรายการข้างต้นนี้สามารถใช้ร่วมกันกับโบท็อกได้โดยไม่อันตราย
กลุ่มยาที่ใช้ร่วมกับโบท็อกแล้วอาจเกิดผลข้างเคียงแบบปานกลาง ไม่อันตราย เช่น ตาพร่า ปากแห้ง รอยช้ำ (ถ้าอาการรุนแรงก็สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อปรับชนิดยาที่ใช้ได้ครับ) ได้แก่ กลุ่มยาแก้แพ้ แก้หวัด, กลุ่มยานอนหลับ, กลุ่มยาต้านเกร็ดเลือด
และหลังฉีดโบท็อกไป ในระยะ 4 เดือน ถ้าจะรับยาอื่น ๆ เพิ่มต้องแจ้งแพทย์ที่จะจ่ายยาด้วยว่าเพิ่งฉีดโบท็อกมาครับ
Q&A : ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อก
Q : ฉีดโบท็อก นวดหน้าได้ไหม?
A : หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือคอร์สเลเซอร์ที่ต้องทำเป็นประจำควรถือโอกาสทำมาก่อนฉีดโบท็อก เพราะหลังฉีดจะต้องงดไป 2 อาทิตย์ จึงจะทำต่อได้
Q : ทําไมฉีดโบท็อกซ์ถึงห้ามกินเหล้า?
A : ความร้อนของร่างกายหลังดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหลังฉีด 48 ชั่วโมง จึงควรงดก่อนครับ
Q : หลังฉีดโบท็อก กินคอลลาเจนได้ไหม?
A : หลังฉีดโบท็อก กินคอลลาเจนหรือวิตามินได้ตามปกติครับ และต้องระวังในการรับประทานวิตามินบางตัวเช่น Zinc (แร่ธาตุสังกะสี) หากรับประทานปริมาณมากจะช่วยเสริมฤทธิ์โบท็อกให้รุนแรงเกินไป
Q : ฉีดโบท็อก กินอาหารทะเลได้ไหม?
A : หลังฉีดโบท็อก กินอาหารทะเลได้ตามปกติครับ แต่ควรระวังเรื่องแร่ธาตุสังกะสี โดยปกติอาหารทะเลจะมีแร่ธาตุสังกะสี 1.5-4 mg/100 g
Q : ฉีดโบท็อกกินกาแฟได้ไหม?
A : ถึงแม้ว่าคาเฟอีนจะมีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว แต่การดื่มกาแฟมีความเข้มข้นของคาเฟอีนเพียงเล็กน้อย ไม่ส่งผลต่อโบท็อก ไม่มีผลทำให้เกิดการบวมมากขึ้น สามารถดื่มกาแฟได้ตามปกติครับ
Q : ฉีดโบท็อกมาแล้ว ทาครีมได้ไหม?
A : ทาครีมได้ตามปกติ แต่ควรเว้นบริเวณที่เป็นรอยเข็ม 1 คืน และหลัง 1 สัปดาห์ สามารถทำ Treatment ได้ครับ
Q : หลังฉีดโบท็อก เคี้ยวหมากฝรั่งช่วยเรื่องอะไร?
A : การเคี้ยวหมากฝรั่งหลังฉีดโบท็อก 30 นาทีแรก จะช่วยกระจายตัวยาและทำให้โบท็อกถูกดูดซึมได้ดีขึ้นครับ
Q : ทำไมหลังฉีดโบท็อกลดกราม ห้ามกินอาหารเหนียว ๆ
A : ถ้ากล้ามเนื้อถูกกระตุ้นให้ใช้งานบ่อยเช่น ยิ้มบ่อย เลิกคิ้วบ่อย (มักพบในคนที่เล่นสนุกเก้อ หรือเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ นาน ๆ โดยไม่จำเป็น) กล้ามเนื้อก็จะแข็งแรงขึ้นและทำให้โบท็อกอยู่ได้สั้นลง กล้ามเนื้อเด้งกับมาใหญ่เหมือนเดิม
ถ้ากล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้งานต่อเนื่องนาน ๆ เมื่อเวลาผ่านไปขนาดกล้ามเนื้อจะเล็กลง และกลับมาทำงานได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น
สรุป
เพื่อให้การฉีดโบท็อกได้ผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นาน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำก่อนฉีดโบท็อก ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อก ฉีดโบท็อกกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ยาแท้ และดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ดีและอยู่ได้นานขึ้นครับ