ไหมอิตาลี
อัพเดตล่าสุดเมื่อ เวลา 07:39 น.วันจันทร์ ที่ 25 เดือนธันวาคม พ.ศ.2566
หมวดหมู่ ไหมอิตาลี

รวมเรื่องต้องรู้ไหมอิตาลี 

ไหมเส้นเดียว ผิวแน่น ยกนาน ยาวเป็นปี

แก้มหย่อนคล้อย มีร่องน้ำหมาก มุมปากตก มุมปากไม่เท่ากัน

กรอบหน้าหย่อนคล้อย เห็นเหนียงชัดเจน ผิวไม่ฟู ไม่เต่งตึง

แนะนำร้อยไหมอิตาลี - Definisse-Italian Thread Lift

1.jpg

ร้อยไหมอิตาลี คือ การร้อยไหมระดับสูงที่ออกมาเพื่อยกกระชับใบหน้า ซึ่งกระแสการร้อยไหมนับว่าเป็นที่รู้จักกันในแวดวงความงามมาอย่างยาวนาน และได้มาตรฐาน usfda ส่วนใหญ่จะใช้ไหมที่มาจากเกาหลี สำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำนวัตกรรมใหม่ของการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เจ็บน้อย แบบเห็นผลทันทีหลังทำกันครับ ว่าคุณภาพเฉพาะตัวของไหมอิตาลี แตกต่างจากไหมปกติทั่วไปอย่างไร

3.jpg

การร้อยไหม (Thread lift) คือ

การร้อยไหม (Thread Lift) คือ การใช้ไหมที่มีคุณสมบัติละลายได้เองตามธรรมชาติเพื่อร้อยไหมเข้าไปใต้ผิวของใบหน้า ซึ่งเส้นไหมจะออกแบบเป็นตะขอขนาดเล็กๆให้ยึดติดกับโครงสร้างใต้ผิวหน้าเพื่อยกกระชับผิวหน้าไปที่ตำแหน่งเหมาะสม เส้นไหมเองช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน และกรดไฮยาลูรอนิก ผิวจึงตึงกระชับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังร้อยไหม

5.jpg

ไหมร้อยหน้า (Thread lift) มีกี่ประเภท?

การร้อยไหมที่เราคุ้นเคยกันจะแบ่งกันเป็น 2 ประเภท ดังนี้

ร้อยไหม (แบบไหมละลาย) คือ ไหมที่สลายได้ตามธรรมชาติ 100% ทำจากวัสดุ PDO, PLLA และ PCL ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และมีความยืดหยุ่น และความแข็งแรงแตกต่างกันออกไป และร้อยไหมอิตาลี Definisse ก็อยู่ในประเภทนี้

2.jpg

ร้อยไหม (แบบไหมไม่ละลาย) คือ ไหมที่ทำจากวัสดุที่เป็นพลาสติก ทองคำ หรือ โลหะ ซึ่งถ้าเป็นแบบพลาสติกจะเหมาะกับการใช้เย็บแผล สำหรับแบบที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ก็เคยเป็นที่นิยมมานาน แต่มีความเสี่ยงหลายอย่างเช่น ทองจะไม่ทนความร้อน และมีปัญหากับการทำ CT Scan และอาจก่อให้เกิดการแพ้ของผิวหนังได้

ร้อยไหมกี่วันเข้าที่?

การร้อยไหมโดยทั่วไปแล้ว หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และไม่มีภาวะแทรกซ้อนของคนไข้ ร้อยไหมเข้าที่ได้ภายใน 4-6 สัปดาห์ แต่สำหรับการร้อยไหมอิตาลี (Definisse Italian Threads Lift) นั้นสามารถเข้าได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ เหตุผลมาจากปัจจัยของการทำที่เจ็บน้อย แผลเล็ก และประสบการณ์แพทย์

 ร้อยไหมอิตาลี Definisse Italian Thread Lift

4.jpg

การร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) คืออะไร?

การร้อยไหมอิตาลี คือ การใช้ไหมชนิดพิเศษของแบรนด์พรีเมียม Definisse ซึ่งเป็นไหมที่ได้รับการรับรองจาก อย.​ไทย เพียงแบรนด์เดียว นำเข้าตรงจากอิตาลี ทำให้มีความปลอดภัยต่อคนไข้ และมีคุณภาพในผลิตสูง

การร้อยไหมอิตาลีที่ lyft clinic จะใช้รุ่น Definisse Double Needle Threads ซึ่งโครงสร้างไหมจะเป็นแบบเงี่ยงไหมสองทิศทางวิ่งเข้าหากัน (Bidirectional and Convergent Barbed Threads) และเน้นการใช้งานสำหรับร้อยบริเวณหน้า และลำคอ

ทำไมต้องร้อยไหมอิตาลีด้วยแบรนด์ Definisse?

ไหมอิตาลีที่ Dermaster นำมาใช้นั้นเป็นของบริษัท เอ. เมนารินี (A. Menarini) บริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก และเก่าแก่ที่สุดจากประเทศอิตาลี (Made in Italy) เปิดตัวในปี 2561 ในไทยภายใต้บริษัทย่อยชื่อว่า ReLife และไหมอิตาลีแบรนด์ Definisse เป็นผลิตภัณฑ์แรก โดยในปัจจุบันเป็นไหมอิตาลีรายแรกและรายเดียวที่ได้รับการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในไทย

การร้อยไหมอิตาลีรุ่น Definisse Double Needle Threads มีเส้นไหมกี่แบบ?

ไหมอิตาลีนั้นจะมี 2 ขนาด คือ ขนาด 12 cm และ ขนาด 23 cm ซึ่งการใช้งานจะแบ่งเป็นบริเวณที่ใช้ร้อยไหม ดังนี้:

ไหมขนาดความยาว 12 cm เหมาะสำหรับการใช้ร้อยไหมบริเวณหน้า เช่น ใช้ยกคิ้ว ยกหางตา ยกกระชับบริเวณขากรรไกร ยกกรอบหน้า และร่องน้ำหมาก

ไหมขนาดความยาว 23 cm เหมาะสำหรับการใช้ร้อยไหมบริเวณคอ และกรอบหน้า

การร้อยไหมอิตาลี Definisse Double Need Threads นั้นใช้ไหมเข็มปลายแหลมสองด้าน ขนาดเข็มเบอร์ 21 G และจำนวนเส้นไหมที่ต้องใช้นั้นโดยส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความหย่อนคล้อยของชั้นผิวหนังของแต่ละบุคคล แต่โดยพื้นฐานแล้วจะเริ่มต้นใช้แค่เพียงข้างละ 1 เส้นเท่านั้น หรือ อาจจะใช้ในจำนวนที่น้อยมากๆเมื่อเทียบกับการร้อยไหมประเภทอื่นๆ ที่ร้อย8-12เส้น

ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับการแพทย์ประเมินของแพทย์ ในการออกแบบรูปหน้าและปัญหาของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันออกไป เรียกได้ว่า เป็นหัตถการที่คุณภาพสูงคาดหวังผลได้ แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน

6.jpg

เทคนิค ร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) Double Need Threads ดีไหม?

Dermaster ใช้เทคนิครอยไหมอะไร?

เทคนิค ร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) Double Need Threads

เทคนิคเข็มเย็บคู่หรือ Double Needle Technique คือ เทคนิคการใช้เส้นไหมในการยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด เช่น การร้อยไหม PDO Thread Lift โดยเทคนิคนี้ใช้เข็มเย็บสองเข็มในการแทรกเส้นไหมเข้าสู่ผิวหนัง โดยใช้เข็มหนึ่งในการแทรกเส้นไหมเข้าสู่จุดเข้า และเข็มอีกตัวใช้ในการนำเส้นไหมไปยังจุดออก

การใช้เข็มเย็บคู่ใน Double Needle Technique นี้มีประโยชน์หลายประการ อย่างแรกคือช่วยให้การแทรกเส้นไหมเข้าสู่ผิวหนังมีความแม่นยำมากขึ้น ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้การใช้เข็มเย็บคู่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการที่เส้นไหมอาจหักหรือเลื่อนไปอย่างไม่พึงประสงค์ ที่อาจเป็นสาเหตุให้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ

เทคนิค Definisse 12 cm double needle threads ที่ใช้ร่วมกับเทคนิค Jawline Reshaping (JR) ช่วยทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนโครงร่างของเส้นคางเป็นแบบที่เราต้องการได้ โดยทำการยกกระชับบริเวณหน้าล่างโดยไม่ต้องผ่าตัด

เทคนิคนี้สามารถทำได้โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ระดับ Basic หรือ Advanced ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ที่ทำการรักษา

9.jpg

ก่อน ร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

8.jpg

หลัง ร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) ต้องดูแลตัวเองอย่างไร?

ร้อยไหมอิตาลี Definisse (Italian Thread lift) บวมกี่วัน?

โดยพื้นฐาน ร้อยไหมอิตาลี จะบวมประมาน 3-4 วันค่ะ หากผ่านไป 4 วันแล้ว อาการจะไม่ทุเลาลง ให้แนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ Dermaster หรือ แพทย์ได้ตลอดเวลาค่ะ ช่วงเวลานี้อาการบวมจะชัดเจนมากค่ะ หลังจากนั้นจะใช้เวลาประมาน 7-14 วันจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้แผลสมานอาการบวมจะยุบลงชัดเจน และไหมยึดติดได้เข้าที่มากขึ้น แนะนำให้คนไข้ปฏิบัติตามข้อแนะนำข้างต้นตลอดการรักษาค่ะ

ร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) แตกต่างกับการร้อยไหมแบบอื่นๆอย่างไร?

ไหมอิตาลี จะมีลักษณะเป็นเงี่ยงสองหัวหันวิ่งเข้าหากัน มีคุณสมบัติยึดเกาะได้ดีเยี่ยมทำให้ผลลัพธ์ยกกระชับใบหน้าของเราสามารถอยู่ได้นานถึง 15 เดือน

ไหมอิตาลี ผลิตด้วยวัสดุที่ปิดจุดอ่อนของไหมแบบอื่นๆ คือ จะมีความแข็งแรงกว่า และ ยืดหยุ่นกว่า

ไหมอิตาลี มีคุณสมบัติในการละลายได้เองตามธรรมชาติ โดยจะสลายได้หมดเองทั้งหมด 100% ภายในระยะเวลาเพียง 6-8 เดือน

ไหมอิตาลี มีเข็มอยู่ที่แต่ละด้านของปลายไหม ทำให้สามารถร้อยตามแนวทิศทางที่แพทย์ต้องการอย่างสะดวกมาก ทำหัตถการเสร็จเร็วขึ้น

ไหมอิตาลี ถูกออกแบบมาให้ใช้เส้นไหมเพียงข้างละ 1 เส้น เมื่อเทียบกับการร้อยไหมแบบอื่นๆซึ่งจะใช้ไหมหลายสิบเส้น ทำให้เจ็บน้อย และไม่ต้องพักฟื้นนาน

ร้อยไหมอิตาลีต่างจากไหมมินท์ (MINT) อย่างไร?

เวลาเราสอบถามการร้อยไหมในท้องตลาดเรามักเจอไหมประเภท “ไหมมินท์” หรือ คำว่า “MINT” ซึ่งไม่ได้เกี่ยวโยงกับกลิ่นมินท์ที่เราเข้าใจกันค่ะ ตัวย่อ “MINT” ย่อมาจาก Minimal Invasive Non Surgical Thread คือ การร้อยไหมยกกระชับใบหน้า แบบไม่ต้องผ่าตัดนั่นเองค่ะ ไหมมินท์นี้เป็นชื่อของแบรนด์วัสดุไหมประเภท PDO นำเข้าจากเกาหลี สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และได้รับรองจากอย.ไทยเหมือนกับ ไหมอิตาลี Definisse

สำหรับความแตกต่างก็จะขึ้นอยู่กับการใช้งานของเส้นไหมแบบ PDO ซึ่งมีคุณสมบัติเปราะบางกว่า การร้อยไหมอิตาลี (Definisse) และไม่ได้ยืดหยุ่นมากนัก หากบริเวณที่จะทำหัตถการนั้นมีไขมันมาก หรือ มีความหย่อนคล้อยสูง ไหมแบบ PDO ไม่เหมาะครับ เพราะต้องใช้แรงดึงค่อนข้างสูง โอกาสไหมรูด แก้มตกกลับมาแบบเดิม เกิดขึ้นได้ง่าย

นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิตกับไหมประเภท PDO (จากเกาหลี) นั้นค่อนข้างจะต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในการแสดงอารมณ์ผ่านทางใบหน้า เช่น การหัวเราะ การหาวขณะที่ง่วงนอน การอ้าปากกว้าง การขยับใบหน้าที่มากไป จะเสี่ยงทำให้ไหมขาดง่ายทันที และเสี่ยงการติดเชื้อได้

อย่างไรก็ตามการร้อยไหมทุกรูปแบบควรได้รับการแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ในการร้อยไหม และ ได้รับการรับรองจากแพทยสภาเพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง

ทำไมต้องร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread lift) ที่ lyft clinic?

ให้บริการโดยแพทย์ประสบการณ์สูง ผ่านการรับรองจากแพทยสภา 

lyft clinic มีรางวัลการันตีด้านการออกแบบใบหน้าเฉพาะบุคคลจากสถาบันชั้นนำระดับโลกจึงทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด

มีที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านร้อยไหมอิตาลีที่ดูแลแบบ 1:1 พร้อมห้อง Private VIP เป็นส่วนตัวตลอดการให้บริการ

ความเสี่ยงของการร้อยไหมอิตาลี Definisse

การร้อยไหมควรใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการร้อยไหม และเชี่ยวชาญในการออกแบบโครงสร้างใบหน้า (Facial Design Expertise) จะช่วยลดความเสี่ยงการวางแนวร้อยไหมที่ไม่ตรงจุดของการดึงกล้ามเนื้อที่ใบหน้า

การเลือกใช้วัสดุไหมที่มีคุณภาพสูงเหมาะสมกับปัญหาเฉพาะบุคคล และเหมาะสมกับผิวหน้าของคนไข้ต้องใช้แพทย์ที่มีประสบการณ์สูง จะช่วยลดความเสี่ยงไหมไม่ได้คุณภาพ การติดเชื้อ และ ผลลัพธ์ของการร้อยไหมที่อาจจะไม่ได้ผลเต็มที่

คำถามที่พบบ่อย

01. ร้อยไหมอิตาลียกกระชับหน้า ที่ lyft clinic ราคาเท่าไหร่?

7.jpg

ร้อยไหมอิตาลี เริ่มต้น 2 เส้น ราคา 50,000 บาท (ขนาด 12 cm) และร้อยไหมอิตาลี 2 เส้น ราคา 65,000 บาท (ขนาด 23 cm)

02. การร้อยไหมอิตาลีเหมาะสำหรับใครบ้าง?

ใบหน้าหย่อนคล้อยชัดเจน และมีไขมันปริมาณไม่มากน้อยจนเกินไป 

03. การร้อยไหมอิตาลีไม่เหมาะกับใคร?

การร้อยไหมโดยทั่วไป หรือ ร้อยไหมอิตาลีนั้นจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบริเวณใบหน้าเยอะมากจะทำให้แรงดึงทำได้ไม่เต็มที่มาก หรือ ผู้ที่มีใบหน้าตอบไม่มีเนื้อ

04. การร้อยไหมอิตาลีสามารถทำส่วนไหนได้บ้าง?

ร้อยไหมอิตาลีสามารถทำได้บริเวณหน้า เช่น ใช้ยกคิ้ว ยกหางตา ยกกระชับบริเวณขากรรไกร ยกกรอบหน้า และร่องน้ำหมาก และบริเวณลำคอ

05. ก่อนร้อยไหมอิตาลีต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

- งดใช้อาหารเสริม เช่น วิตามินกลุ่ม C E และกลุ่มยาเช่น พาราเซมอล และยาสลายลิ่มเลือด - งดทำทรีทเม้นบริเวณใบหน้าที่ต้องใช้การพักฟื้นใบหน้า เช่น กลุ่มเครื่องยกกระชับใบหน้าอย่าง Ultraformer / Ulthera / Thermage FLX ผู้ที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ผู้ที่ติดอุปกรณ์ใด ๆ ในร่างกาย อาทิ เครื่องกระตุ้นหัวใจ ผู้ป่วยที่เพิ่งผ่าตัดในบริเวณที่จะทำการรักษา

06. ระหว่างร้อยไหมอิตาลีเจ็บไหม?

รู้สึกน้อยมาก เพราะ ทางคลินิกมียาชาให้อย่างเพียงพอ และหัตถการทำในชั้นไขมัน ไม่มีเส้นประสาทความรู้สึก จะรู้สึกเพียงบางจุดที่เป็นทางเข้าออก และมีการฉีดยาชาตามจุดนั้นไว้แล้ว เรียกได้ว่าหากแพทย์

เชี่ยวชาญในชั้นของการร้อย จะแทบไม่รู้สึกเลยครับ

07. หลังร้อยไหมอิตาลีต้องพักฟื้นกี่วัน?

ไม่ต้องนอนพักฟื้นค่ะ เพียงแต่จะให้งดแต่งหน้าในบริเวณที่ร้อยไหมเสร็จประมาน 24 ชั่วโมงเพื่อให้แผลปิดสนิท และงดนวดหน้า หรือ ใช้เครื่องนวดหน้าด้วย นอกจากนี้แนะนำให้งดสัมผัสหน้าตามเวลาที่แนะนำไปข้างค่ะ

08. หลังร้อยไหมอิตาลี ผิวหน้าจะเป็นอย่างไร?

หลังร้อยไหมอิตาลี ผิวหน้าจะมีรอยบุ๋มบ้างจนกว่าสภาพผิวหน้าจะปรับตัวได้ ซึ่งใช้เวลาประมาน 5-7 วัน

09. หลังร้อยไหมอิตาลี ไหมขาดทำอย่างไร?

หลังการร้อยไหมอิตาลี แพทย์จะแนะนำให้คนไข้หลีกเลี่ยงการขยับของกล้ามเนื้อบริเวณที่ร้อยไหม หากคนไข้แสดงความรู้สึกผ่านทางใบหน้า หรือ ขยับบริเวณลำคอมากเกินไป จะทำให้เสี่ยงไหมขาด และแนะนำให้เร่งติดต่อนัดหมายเพื่อพบแพทย์โดยเร็วค่ะ

10. ร้อยไหมอิตาลี ที่ไหนดี?

การร้อยไหมอิตาลี ควรเลือกสถานศัลยกรรมที่ได้มาตรฐาน และมีแพทย์ที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภา พร้อมประสบการณ์ในการร้อยไหมที่ยาวนาน เชี่ยวชาญในการทำหัตถการชั้น ไขมัน และ ทำเทคนิคปลอดเชื้อได้ดี


ดูบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม
โปรโมชั่นดีๆจาก Lyft Clinic
โปรโมชั่น1
อัพความมั่นใจ กับการเติมรูปหน้าสวยด้วย Filler neuramis 5,900 บาท
Hifu ทั้วหน้า 200 Shots เพียง 3,900 บาท
หน้าไบร์ท แบบเร่งด้วย ในงบ 2,900 บาท ด้วย HYA สูตรเข้มข้น