ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพ เห็นผลได้อย่างเต็มที่ การดูแลตัวเองหลังฉีด Filler นับว่ามีส่วนสำคัญมาก ๆ ครับ อะไรที่ต้องระวัง หลังฉีดฟิลเลอร์มีข้อปฎิบัติอะไรบ้าง หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร หลังฉีดเสร็จทันที่เป็นอย่างไร ใน 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรดูแลตัวเองอย่างไร
รวมถึงในแต่ละบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็น ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม การแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ดูแลต่างกันหรือไม่ ควรดูแลอย่างไร เพื่อคงผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานขึ้น
ในบบทความนี้ หมอได้อธิบายวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละช่วงเวลา แต่จุดที่ฉีด และข้อควรระวังต่าง ๆ ไว้ให้แล้ว สามารถศึกษาข้อมูล และนำไปปฎิบัติได้เลยครับ
สารบัญ
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
ข้อควรปฎิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์ ที่หมอจะแนะนำต่อไปนี้ ล้วนแต่เป็นเรื่องปฎิบัติได้ง่าย ๆ ครับ หากอยากให้การฉีดฟิลเลอร์ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ แนะนำให้ปฎิบัติดังนี้
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ทันที
หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จทันที อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำเป็นปกติ ให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน แต่หากหลังจาก 3 วัน อาการดังกล่าวยังเป็นมากขึ้น ให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม
หลังฉีดฟิลเลอร์ 1 ชม. สามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้ หากต้องการแต่งหน้าควรเว้นบริเวณรูเข็มที่ฉีด ส่วนใครที่ก่อนฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที และทางคลินิกจะมียาแก้ปวด,ลดบวมให้กินด้วยครับ
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 3 – 48 ชั่วโมง
หลังฉีดฟิลเลอร์ 3 ชั่วโมง รอยเข็มฟิลเลอร์สามารถโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที สามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ ได้ และใครที่ต้องการประคบเย็น แนะนำปรึกษาแพทย์ก่อน ห้ามประคบเองและทำผิดวิธีอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเกิดการเคลื่อนและไม่เกาะผิวได้ ควรประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ในบางกรณีเท่านั้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ 6 ชั่วโมง ยาชาจะเริ่มหายบวม ถ้ามีจุดไหนที่ยังบวมมาก ประคบเย็นได้ โดยควรประคบเบา ๆ ไม่ควรกดแรง
หลังฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง จะเริ่มมีอาการบวมเข็มมากขึ้น สำหรับฟิลเลอร์คนไข้บางคนอาจจะเข้าใจผิดว่าฟิลเลอร์ฟูขึ้นและชอบแบบที่ฟู ๆ นี้ แต่เมื่อผ่านไป 7-14 วัน อาการบวมเข็มยุบลงก็เข้าใจผิดว่าฟิลเลอร์สลายหายไป
การดูผลฟิลเลอร์ควรจะดูหลังฉีดเสร็จทันทีและควรดูผลอีกทีหลังจาก 14 วันนะครับ ระหว่างนั้นไม่สามารถประเมินได้เต็มที่เนื่องจากอาจมีอาการบวมอยู่ ช่วงเวลานี้คนไข้สามารถทาครีมทับบริเวณรอยเข็มได้ หรือโดนน้ำได้ปกติ ไม่เป็นปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ครับหลังฉีดฟิลเลอร์ 48 ชั่วโมงแรก แนะนำให้อยู่แต่ในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด การดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ 3-14 วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน อาการปวดบวมแดง ช้ำ จะเริ่มดีขึ้น หากอาการมีแนวโน้มแย่ลงให้ติดต่อคลินิกเพื่อขอรับยากินเพิ่ม โดยในช่วง 3 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถขยับใบหน้าได้เกือบปกติ แต่อย่าขยับใบหน้าเยอะโดย จะทำให้ฟิลเลอร์ที่ทำไว้เคลื่อนผิดตำแหน่งได้ ฟิลเลอร์จะเข้าที่แล้วประมาณ 90 แต่ยังไม่ควรกดนวดแรง ๆ
หลังฉีดฟิลเลอร์ 7-10 วัน รอยเขียวช้ำอาจจะยังมีอยู่จะค่อย ๆ จางลงเองใน 14 วัน และไม่ควรประคบร้อนครับ ในบางเคสจะยังคลำเจอฟิลเลอร์เป็นก้อนได้ปกติ เป็นอาการบวมเข็ม จะค่อย ๆนิ่มลงเองภายใน 2-3 สัปดาห์
หลังฉีดฟิลเลอร์14 วัน อาการบวมจะหายไปเกือบ 100 สำหรับฟิลเลอร์จะเริ่มนิ่มลงและกลืนไปกับผิว ยกเว้นฟิลเลอร์ในรุ่นที่ฉีดในผิวชั้นลึกเพื่อยกพยุงหน้า เช่น Restylane-Perlane-Lyft หรือ Juvederm-Voluma จะคลำได้เนื้อฟิลเลอร์ในผิวชั้นลึก แต่จะมองไม่เห็นจากภายนอกเป็นปกติครับไม่ต้องกังวล
ทั้งนี้สามารถออกกำลังกาย หรือรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่พยายามหลีกเลี่ยงความร้อนครับ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 1 เดือน
งดการทำทรีตเมนท์ เลเซอร์ร้อน ที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
แนะนำการดื่มน้ำ คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน เนื่องจากใน particle ของฟิลเลอร์โมเลกุลของฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปและถูกแทนที่ด้วยโมเลกุลของน้ำ เป็นการสลายแบบ Isovolumetric degradation
ลักษณะ particle ของฟิลเลอร์ชนิด HA จะคล้ายๆกับวุ้นใส ๆ สามารถสลายกลายเป็นน้ำได้ 100 เมื่อเวลาผ่านไป 1-2 ปี
นั่นหมายความว่าแม้ฟิลเลอร์จะสลายไปบางส่วนแต่ก็จะยังมีปริมาตรเท่าเดิมได้อยู่จากน้ำที่เรากิน ซึ่งถ้าขาดน้ำขนาด particle ก็จะเล็กลง และเพิ่มอัตราการสลายแบบทวีคูณ
ดังนั้นควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอตามปกติคือวันละ 1.5-2 ลิตร เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป
กลางคืนหลังฉีดฟิลเลอร์ มีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไร ห้ามทำอะไรบ้าง
ในคืนแรกหลังจากฉีดฟิลเลอร์ ยาชาที่ฉีดไว้หมดฤทธิ์ใน 3 ชม.หลังทำ จะเริ่มปวดระบมมากขึ้น หากหลังจากกินยาแก้ปวด paracetamol ที่ทางคลินิกให้ไปทุก ๆ 4 ชม. แล้วยังปวดมากอยู่ก็สามารถกินยาแก้ปวดในกลุ่มอื่นๆช่วยเสริมได้เช่น ibruprofen, arcoxia, diclofenac แต่ถ้าไม่เคยกินยาเหล่านี้มาก่อนควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาครับ
ควรนอนในห้องแอร์ที่อุณหภูมิ 18-23 °C นอนหัวสูงกว่าหน้าอกโดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ ไม่ควรนอนตะแคง ควรหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งซ้ายและขวาใน 2-3 คืนแรกหลังทำเพื่อป้องกันการกดทับหน้า
นอกจากข้อปฎิบัติที่แนะนำไปแล้ว ยังมีข้อควรระวังอื่นที่ควรปฎิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ โดยหมอจะอธิบายแยกในแต่ละบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ในข้อต่อไปครับ
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยม ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดูโทรม อ่อนล้า ให้กลับมาสดใสได้เป็นอย่างดี
ข้อปฎิบัติ
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จทันที หมอจะติดพลาสเตอร์ให้ตามรอยเข็ม เมื่อครบ 1 ชม. จึงสามารถแกะออกได้ อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำครับ อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นเองในช่วง 2-3 วันครับ
แต่หากเลย 3 วันไปแล้ว อาการบวมแดงยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้กลับมาที่คลินิกเพื่อให้หมอตรวจเช็คหรือรับยากินเพิ่มครับ
ในบางเคสอาจปวดระบมตามรอยเข็มในคืนแรกหลังทำ สามารถกินยาแก้ปวด ที่ทางคลินิกให้ไปทุก ๆ 4 ชม .ครับ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติครับ
นอกจากนี้ควรปฎิบัติ ดังนี้
นอนหัวสูงกว่าหน้าอกโดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ ไม่ควรนอนตะแคง
ควรหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งซ้ายและขวาใน 2-3 คืนแรกหลังทำ เพื่อป้องกันการกดทับใบหน้า
ควรทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังทำต่อเนื่องจนครบ เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ
ข้อควรระวัง
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ระวังอย่าขยี้ตา เกา กดหรือนวดในจุดที่ฉีดครับ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบจากมือที่สกปรก ร่วมถึงมีผลต่อการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ครับ
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะช่วยให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนกว่าวัย และสดใสขึ้นครับ เพราะการมีร่องแก้มชัดเจนทำให้ใบหน้าดูมีอายุ
เมื่อฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ในบางเคสหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อาจมีอาการบวมแดง หรือคันได้ในจุดที่ทำเป็นปกติ ควรดูแลตัวเองดังนี้
ข้อปฏิบัติ
หากมีอาการปวดจุดที่ฉีด คนไข้สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการครับ แต่หากหลังจาก 3 วัน ยังมีอาการปวดและบวมมากอยู่ สามารถติดต่อคลินิกเพื่อรับยาทานเพิ่มได้เช่นกัน
ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในแต่ละเคสครับ เช่น การประคบเย็น ทำในบางกรณีเท่านั้น หากต้องประคบเย็นไม่ควรกดแรง
ข้อควรระวัง
อย่าบีบ กด หรือ นวด แกะเกาบริเวณร่องแก้ม อาการต่าง ๆ จะค่อยๆดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจจะทำให้ฟิลเลอร์ร่องแก้มเคลื่อนที่ได้ครับ
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.หลังทำ เช่น การออกกำลังกายหนักๆ ตากแดด
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หากต้องการปรับรูปทรงปากให้ดูอวบอิ่ม ปากกระจับ โดยไม่ต้องผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยได้ครับ นอกจากได้ทรงปากที่ได้สัดส่วนแล้ว ยังช่วยทำให้ปากชุ่มชื้นขึ้นได้ โดยมีวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ดังนี้
ข้อปฏิบัติ
ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ และช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู อยู่ได้นานขึ้น
ควรรับประทานและเครื่องดื่มอุณหภูมิปกติ เลี่ยงของร้อน ๆ เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการบวม
ใน 12 ชั่วโมงแรกควรงดใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติกและงดสูบบุหรี่
ข้อควรระวัง
หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด ไม่จับ บีบ นวดบริเวณริมฝีปาก
ไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง
หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ด เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการอักเสบได้ง่าย
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
ใครที่เนื้อขมับยุบหายไปมาก ๆ จะทำให้โหนกแก้มเด่น สามารถใช้ฟิลเลอร์ช่วยได้ครับ จะทำให้โหนกแก้มเด่นน้อยลง และใบหน้าจะเรียวเข้ารูปมากขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ขมับ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาขมับยุบ ขยับตอบ ขมับบุ๋ม ช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
ข้อปฏิบัติ
หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ คนไข้อาจรู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย เพราะเป็นจุดรวมเส้นประสาท จึงไวต่อความรู้สึกได้ง่าย โดยอาการปวดศีรษะสามารถหายได้เองในช่วง 1-2 วันครับ ในระหว่างนี้คนไข้สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ครับ
ข้อควรระวัง
ไม่ควรกดนวด บริเวณขมับที่ฉีดฟิลเลอร์
เลี่ยงการนอนให้กดทับบริเวณขมับ เพราะจะทำให้รู้สึกเจ็บ หรือปวดศีรษะครับ (การนอนตะแคงไม่ได้ทำให้ฟิลเลอร์เสียทรง เพราะมีความคงตัวมากขึ้น ไม่เปลี่ยนรูป ไม่เสียทรง)
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นการปรับรูปหน้าโดยรวมให้ได้สัดส่วนมากขึ้น นิยมฉีดในคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง แก้ปัญหาหน้าผากยุบ แบน สามารถปรับเพิ่มลดความโหนกนูนได้ตามต้องการโดยไม่ต้องผ่าตัด
ข้อปฏิบัติ
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ในบางเคส อาจรู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย แต่อาการจะค่อย ๆ หายไปครับ หากรู้สึกปวดมากสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ครับ ไม่เสียเวลาพักฟื้น หลังฉีดควรอยู่ในที่เย็น ๆ สามารถเดินเล่น ช้อปปิ้งได้โดยไม่ต้องกังวล คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์ครับ
ข้อควรระวัง
ไม่ควรจับ กดนวดบริเวณหน้าผาก หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จทันที ห้ามนอนราบหลังฉีดฟิลเลอร์ 3-4 ชั่วโมง
ไม่ควรนอนคว่ำ หรือมีการรัด กดบริเวณหน้าผาก
เลี่ยงการสัมผัสความร้อน
ห้ามถูหน้าแรง ๆ หรือกด บีบสิวบริเวณหน้าผาก
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
การฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น คางยาวขึ้นได้อย่างรดเร็ว หลังฉีดฟิลเลอร์คาง 24 ชม.จะเริ่มมีอาการบวมเข็มมากขึ้น ประมาณ 14 วันถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งในระหว่างนี้ควรดูแลตัวเองอย่างดี
ข้อปฏิบัติ
การฉีดฟิลเลอร์คางมีข้อปฏิบัติเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์จุดอื่น ๆ ครับ เช่น ควรดื่มน้ำมาก ๆ หลังฉีด ควรอยู่ในอากาศเย็น ๆ ไม่แกะ เกา นวด จับ บริเวณที่ฉีด เป็นต้น แม้จะมีวิธีปฎิบัติ ดูแลไม่ยุงยาก แต่ก็มีข้อควรระวังเฉพาะเจาะจงอยู่ครับ
ข้อควรระวัง
หลังฉีดฟิลเลอร์คางห้ามนวด กด ปั้นทรงเองโดยเด็ดขาดครับ โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรก ที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี เพราะจะทำให้คางเสียทรงครับ
หลีกเลี่ยงการเท้าคาง
เลี่ยงการใส่หมวกกันน็อคที่รัดแน่น ๆ
ไม่ควรนอนคว่ำ เพราะอาจทำให้เกิดการกดทับตรงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คางครับ
คำถามที่พบบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล บวมกี่วัน
โดยปกติหลังฉีดฟิลเลอร์จะสามารถเห็นการเปลี่ยนได้ทันที และค่อย ๆ หายบวมประมาณ 4-5 วัน และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ
อาจมีผลข้างเคียงจากการฉีดได้ เช่น ผื่นหรือจุดแดงบริเวณรอยเข็ม ซึ่งสามารถหายไปเอง นอกจากนี้อาจมีอาการบวมหลังฉีดเป็นเรื่องปกติ หากมีอาการปวด คนไข้สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการ ไม่ต้องเป็นกังวลครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ ล้างหน้าน้ำอุ่นได้ไหม
ตามหลักการแล้วสามารถอาบน้ำหรือล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นได้ครับ เพราะไม่ได้ทำให้ฟิลเลอร์สลายอย่างที่หลายคนเข้าใจ โดยส่วนตัวหมอแนะนำล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติจะดีกว่าครับ เพราะคำว่าน้ำอุ่นของแต่คนต่างกัน บางคนอุ่นจนร้อนครับ ซึ่งมีผลทำร้ายผิวหน้าให้แห้ง ขาดความชุ่มชื้นได้ครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง
หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง ข้อนี้คนไข้ถามหมอบ่อย ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จ จริงๆ เรื่องอาหารการกินไม่ได้ ยุ่งยากมากครับ แต่ขอให้งดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้าในระยะ 14 วันหลังทำ (ถ้าทำไม่ได้จริง ๆ ก็ควรงดอย่างน้อย 48 ชม.) ดังนี้ครับ
ควรงดรับประทานอาการเหล่านี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
เลี่ยงมื้ออาหารที่อยู่หน้าเตานานๆ เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ ครับ
อาหารที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
อาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบจากร้านอาหารที่ไม่สะอาด เนื่องจากพยาธิบางชนิดจะทำปฏิกิริยากับฟิลเลอร์แล้วเกิดการอักเสบได้
งดอาหารที่หวานจัด ๆ นมวัว เพราะสามารถกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
ควรงดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
หลังฉีดฟิลเลอร์ คงผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน
การฉีดฟิลเลอร์ ประเภทไฮยารูลอนิกแอซิด หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6 – 12 เดือน โดยขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ฉีด และวิธีการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคลครับ
สรุป
วิธีการดูแลหรือข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ที่หมอแนะนำไปก็ไม่ยุ่งยาก สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ครับ เชื่อว่าคนไข้สามารถทำตามได้ เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และคงผลลัพธ์อยู่ได้นานยิ่งขึ้นครับ
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่เห็นผลเร็ว สามารถทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้น การใช้เวลาไม่นาน แต่ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ต้องมั่นใจว่าฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์เป็นไปในแบบที่คาดหวังครับ